สรุป 7 ข้อ สูตรทำคอนเทนต์ ขายของตรง ๆ แต่คนดูไม่เบื่อ จาก Salmon House และ SOUR Bangkok

สรุป 7 ข้อ สูตรทำคอนเทนต์ ขายของตรง ๆ แต่คนดูไม่เบื่อ จาก Salmon House และ SOUR Bangkok

22 ก.ย. 2025
จากงาน MKT CON 2025 ใน Session Marketing Trends: Content & Communication
โดยใน Session นี้ ผู้ที่มาแชร์สูตรการทำคอนเทนต์ คือ คุณวิชัย มาตกุล จาก Salmon House และคุณดมิสาฐ์ องค์ศิริวัฒนา จากประสบการณ์จริงในวงการเอเจนซีโฆษณาและครีเอทิฟ
แล้วใน Session นี้ มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ?
1. ปัจจุบัน แค่ Storytelling ไม่พอแล้ว แบรนด์ต้องทำ Storydoing ด้วย
ข้อแรกเลยคือ ในปัจจุบันความต้องการของทุกแบรนด์ คือการเล่าเรื่องของตัวเอง ในยุคหนึ่งในวงการเอเจนซีและครีเอทิฟ จึงมีกลยุทธ์ Storytelling เกิดขึ้นมา
เพื่อทำคอนเทนต์เล่าเรื่องแบรนด์ ที่สร้างประสบการณ์ร่วม หรือความ “อิน” ให้กับลูกค้า ซึ่งเป็นคนทั่วไป
แต่ตอนนี้ ในเมื่อทุกแบรนด์ต่างเล่าเรื่องราวของตัวเอง เกิดเป็นภาวะ Content Overload ในมุมมองของคนทั่วไป กลยุทธ์ Storytelling จึงอาจใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไปแล้ว
แต่สิ่งที่ควรทำทดแทน Storytelling ก็คือ กลยุทธ์ Storydoing ซึ่งไม่ใช่แค่การเล่าเรื่องตามที่แบรนด์ต้องการ แต่เป็นการสื่อสารเรื่องแบรนด์ ด้วยการลงมือทำ เพื่อให้ลูกค้ามองเห็น
2. ซอยย่อยแคมเปญ ใช้กลยุทธ์ Micro-Engagement
ข้อถัดมาที่เรียกได้ว่าเป็นสูตรในการทำคอนเทนต์ รวมถึงการทำแคมเปญการโฆษณา ที่ได้รับความนิยมจากเอเจนซีในยุคนี้ ก็คือการใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า Micro-Engagement
โดยนำแคมเปญโฆษณา 1 แคมเปญ มาซอยย่อยให้เป็นโฆษณาชิ้นเล็ก ๆ หลายตัวแทน แล้วให้โฆษณาแต่ละตัวทำหน้าที่สร้าง Engagement แบบเล็ก ๆ
แล้วเมื่อเห็นภาพว่า Engagement นั้น กลายเป็นกระแส หรือ “จุดติด” ค่อยหาทางขยี้ Engagement นั้นต่อ ด้วยโฆษณาตัวถัดไป
แทนที่จะทำแคมเปญโฆษณาใหญ่ ๆ เพียงตัวเดียวเพื่อโปรโมตสินค้า
3. ทำคอนเทนต์ขายของ แต่คนดูไม่เบื่อ ต้องเริ่มจาก Objective ชัด เป็นอันดับแรก
โดยปกติแล้ว โจทย์อย่างหนึ่งที่เอเจนซีและครีเอทิฟได้รับจากลูกค้า ซึ่งเป็นแบรนด์ต่าง ๆ มักเป็นการสร้างความสนุก หรือทำคอนเทนต์ตลก ๆ
โดยหวังว่าจะใช้ความสนุก หรือความตลกของคอนเทนต์ เพื่อทำให้คนทั่วไปสนใจ และกลายมาเป็นลูกค้าของแบรนด์
แต่จริง ๆ แล้ว ในวงการเอเจนซีและครีเอทิฟ การทำคอนเทนต์เพื่อขายของ สิ่งที่ควรทำก่อนเป็นอย่างแรกคือ การกำหนดวัตถุประสงค์ (Objective) ของโฆษณาให้ชัดเจนก่อนเป็นอันดับแรก เหมือนมีความต้องการเป็นกรอบที่ชัดเจนก่อน
แล้วหลังจากนั้นค่อยหาทางใส่ความครีเอทิฟ หรือความสนุก ความตลก เข้ามาในคอนเทนต์ เป็นอันดับถัดไป เพื่อทำให้โฆษณา หรือคอนเทนต์ที่ได้ มีความชัดเจนมากที่สุด
4. ทำคอนเทนต์ ต้องจับจังหวะเวลาให้แม่นยำ
โดยการจับจังหวะเวลาให้แม่นยำ แบ่งออกเป็น 2 ประเด็นด้วยกัน คือ
- จังหวะเวลาการขายสินค้าในคอนเทนต์
ต้องจับจังหวะให้ถูก ไม่เร็วไม่ช้าเกินไป เพราะการทำคอนเทนต์ขายสินค้าแบบตรง ๆ ทำได้ แต่หากสินค้าออกมาเร็วเกินไป ก็จะทำให้คนดูไม่สนใจสินค้า และดูน่าเบื่อ
- จังหวะเวลาของคอนเทนต์
พยายามไม่ทำคอนเทนต์ตามกระแส เช่น คอนเทนต์ที่เล่นกับมีม หรือเรื่องไวรัลที่กำลังเกิดขึ้น
แต่ควรทำคอนเทนต์ที่อยู่ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะปล่อยคอนเทนต์ออกมาตอนไหน หรือดูคอนเทนต์ตอนไหน คอนเทนต์นั้นก็ยังสนุก หรือตลกเหมือนเดิม
5. ละครซิตคอม ขายสินค้าแบบตรง ๆ ได้ โดยที่คนดูไม่เบื่อ
สูตรการทำคอนเทนต์ข้อนี้ เกิดขึ้นจากปัญหาที่โฆษณาทั่ว ๆ ไป ซึ่งมีความยาวเพียง 15-30 วินาที ไม่สามารถขายสินค้าได้ทัน เนื่องจากระยะเวลามีจำกัด
จึงเกิดเป็นไอเดียการขายสินค้าผ่านซิตคอม ที่มีข้อจำกัดด้านระยะเวลาที่น้อยกว่า เพราะโดยส่วนมากแล้วละครซิตคอมมักมีลักษณะเป็นตอนยาว ๆ จึงสามารถขายสินค้าได้อย่างเต็มที่
โดยในข้อนี้คุณวิชัย Salmon House เล่าว่า เคยมีการทำละครซิตคอมร่วมกับช่องทีวีช่องหนึ่ง โดยบทละครเป็นเรื่องราวของบริษัทเอเจนซีโฆษณา ทำให้สามารถนำสินค้าเข้าไปแทรกอยู่ในบทละครซิตคอมได้
รวมถึงยังสามารถพูดจุดเด่น (Unique Selling Point) หรือ Tagline ของสินค้าได้เลยโดยที่ดูไม่ฝืน เพราะธรรมชาติของบริษัทเอเจนซีโฆษณา ต้องพูดเรื่องพวกนี้กันเป็นปกติอยู่แล้ว
6. การสร้างแบรนด์ในยุคนี้ แค่สร้าง Awareness และ Attention ไม่เพียงพอ
แต่ต้องสร้าง Participation หรือการมีส่วนร่วมระหว่างแบรนด์กับลูกค้าให้ได้ แต่อย่างที่บอกไปแล้วว่าต้องจับจังหวะเวลาให้ถูกต้อง
นั่นคือ หากต้องการเล่นกับลูกค้าด้วยมีม หรือแชลเลนจ์ต่าง ๆ ก็สามารถทำได้ แต่ต้องมั่นใจว่าทำได้ในช่วงเวลาที่ถูกต้อง และเข้าใจในสิ่งที่แบรนด์กำลังทำอย่างถ่องแท้ จะได้ดูไม่ “เด๋อ” ในสายตาของลูกค้า
7. ใช้ AI มากเกินไป ลูกค้าก็ไม่ชอบ
และสูตรการทำคอนเทนต์ข้อสุดท้าย ที่ได้แชร์กันใน Session นี้ก็คือ เรื่องของการใช้ AI กับวงการเอเจนซีและการครีเอทิฟ
ที่ยังสามารถใช้ได้ เพราะ AI ช่วยให้วงการเอเจนซีและครีเอทิฟ ทำงานได้เร็วยิ่งขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน “คน” ก็ยังมีความสำคัญไม่แพ้กัน ในฐานะผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ
ที่น่าสนใจคือ มีคนทั่วไปจำนวนมากที่มองว่า แบรนด์ที่ใช้ AI เยอะเกินไป เช่น การใช้ AI สร้างรูปภาพโฆษณา จนดูไม่เป็นธรรมชาติ ดูเป็นแบรนด์ที่ไม่เรียล และดูห่างไกลจากตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ
ทำให้แบรนด์ หรือคนที่ทำงานด้านนี้ ต้องรู้จักสร้างสมดุลในการทำคอนเทนต์ หรือการทำโฆษณาให้ได้..
อ้างอิง :
- Marketing Conference 2025: Marketing Intelligence Unleashed โดย Creative Talk และ Content Shifu
© 2025 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.