
สรุปหลักการทำงาน อัลกอริทึม “Instagram“ ทำไมหน้า Explore บางคน มีแต่รูปสาว ๆ
27 ก.ย. 2025
ทุกครั้งที่ใช้แอปพลิเคชัน Instagram ทุกคนเคยสงสัยกันไหมว่า
- ทำไมเราถึงเห็นคอนเทนต์นี้บนหน้า Feed, หน้า Explore หรือในแท็บคลิป Reels ของเรา ?
- ทำไมหน้า Feed, หน้า Explore, หน้าคลิป Reels ของแต่ละคนถึงไม่เหมือนกัน ?
- ทำไมเราถึงเห็น Stories ของเพื่อนคนนี้ก่อนเพื่อนคนอื่นเสมอ ?
- ทำไมเราถึงเห็นโพสต์ของคนนี้บ่อยจัง แต่อีกคนกลับแทบไม่เห็นเลย ทั้ง ๆ ที่เป็นเพื่อนเหมือนกัน ?
คำถามเหล่านี้ ตอบได้ด้วยหลักการชื่อว่า Instagram Ranking
แล้ว Instagram Ranking คืออะไร ?
Instagram Ranking หรือการจัดอันดับคอนเทนต์บน Instagram เป็นวิธีการคิดของอัลกอริทึมเบื้องหลังใน Instagram ว่าจะให้ผู้ใช้งานแพลตฟอร์มได้เห็นคอนเทนต์อะไรบ้าง แล้วเรียงลำดับก่อน-หลังอย่างไร
ซึ่งหลักการนี้ได้รับการเปิดเผยอย่างเป็นทางการในบล็อกของ Instagram ที่คุณ Adam Mosseri CEO ของ Instagram มาแชร์ไว้ด้วยตัวเอง
เพื่อให้ผู้ใช้งาน แบรนด์ และครีเอเตอร์เข้าใจวิธีคิดของอัลกอริทึมเบื้องต้น และได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด
และนี่ก็คือวิธีจัดอันดับคอนเทนต์ต่าง ๆ บน Instagram
1. หน้า Feed
Instagram จะพิจารณาปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ เช่น สิ่งที่โพสต์ ผู้โพสต์ ความชอบ รูปแบบคอนเทนต์ (รูปภาพเดี่ยว, รวมรูปภาพหลาย ๆ รูปในโพสต์ หรือที่เรียกว่า Carousel, Reels) แล้วนำมาจัดลำดับความสำคัญ
เพื่อบาลานซ์คอนเทนต์จากบัญชีที่เราติดตาม กับบัญชีที่เราไม่ได้ติดตาม แต่เราอาจสนใจต่อไป
โดยปัจจัยที่ Instagram นำมาใช้ เรียงลำดับความสำคัญของคอนเทนต์จากมากไปน้อย ได้แก่
- กิจกรรมของเรา
เช่น โพสต์ที่เรากดไลก์ แชร์ บันทึก และคอมเมนต์ นับเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก
- ความนิยมของโพสต์
เช่น มีคนกดไลก์ แชร์ บันทึก คอมเมนต์กี่คน และกดเร็วแค่ไหน, วันที่โพสต์ และตำแหน่งที่โพสต์
ซึ่งแสดงว่า Instagram ให้ความสำคัญกับโพสต์ที่ได้รับ Engagement สูง, โพสต์ที่คนกดไลก์ กดแชร์เร็ว ๆ รวมถึงโพสต์ที่สดใหม่ รองลงมาเป็นอันดับที่สอง
- บุคคลที่โพสต์
โดย Instagram จะวิเคราะห์ว่า บุคคลนั้นน่าสนใจสำหรับเรามากน้อยแค่ไหน ถ้าคนนั้นมีไลฟ์สไตล์คล้ายกับเราหรือน่าสนใจสำหรับเรา อัลกอริทึมก็จะนำคอนเทนต์ขึ้น Feed ให้เรา
- ประวัติการโต้ตอบกับคนอื่น
เช่น เราเคยพูดคุย หรือคอมเมนต์ในโพสต์ของเพื่อนคนไหนหรือไม่ ซึ่งบ่งบอกได้ว่า เราสนใจบุคคลนั้นมากน้อยแค่ไหน
- ปัจจัยอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น หลีกเลี่ยงการแสดงโพสต์จากคนเดิมซ้ำ ๆ ทำให้เราเห็นโพสต์จากคนหนึ่ง แล้วจะเว้นช่วงสักพักจึงจะเห็นอีกครั้ง หรือไม่เห็นเลยจนกว่าจะรีเฟรชหน้า Feed
__________________
2. Stories
ปัจจัยที่ Instagram นำมาใช้ เรียงลำดับความสำคัญของ Stories จากมากไปน้อย ได้แก่
- ประวัติการดู
โดย Instagram จะนำ Stories จากบัญชีที่เราดูบ่อย ๆ ขึ้นมาให้เราดูก่อนบัญชีอื่น
- ประวัติการมีส่วนร่วม
ปัจจัยสำคัญรองลงมาคือ การกดไลก์หรือการส่งข้อความส่วนตัวไปหาบัญชีนั้น ๆ ถ้าเรามีส่วนร่วมกับบัญชีนั้นบ่อย เราก็จะเห็น Stories จากบัญชีนั้นบ่อยด้วยเช่นกัน
- ความใกล้ชิด
ปัจจัยสุดท้ายคือ ความสัมพันธ์ของเรากับเจ้าของ Stories โดย Instagram จะหาความเป็นไปได้ว่าเราเกี่ยวข้องกับเจ้าของ Stories ในฐานะเพื่อนหรือครอบครัวหรือไม่
ถ้ามีความเป็นไปได้สูง เราก็จะเห็น Stories ของเขาบ่อยกว่าคนที่เรามีความสัมพันธ์แบบห่างเหิน
__________________
3. หน้า Explore
ปัจจัยที่ Instagram นำมาใช้ เรียงลำดับความสำคัญของคอนเทนต์ในหน้า Explore จากมากไปน้อย ได้แก่
- ความนิยมของโพสต์
ได้แก่ ยอดไลก์ แชร์ บันทึก คอมเมนต์ รวมถึงความเร็วที่คนกดไลก์ แชร์ คอมเมนต์ บันทึก
ซึ่งความนิยมของโพสต์สำคัญมากในหน้า Explore มากกว่าในหน้า Feed และ Stories
เพราะหน้า Explore จะรวบรวมคอนเทนต์จากบัญชีที่เราไม่ได้ติดตาม Instagram จึงให้ความสำคัญกับคอนเทนต์ที่พิสูจน์แล้วว่า คนให้ความสนใจมากกว่าคอนเทนต์ทั่วไป เป็นปัจจัยอันดับที่หนึ่งนั่นเอง
- กิจกรรมของเราในหน้า Explore
Instagram จะเก็บข้อมูลว่า เราโต้ตอบ กดไลก์ กดแชร์ บันทึก คอมเมนต์ ให้กับโพสต์แบบไหนในหน้า Explore บ้าง แล้วจะแสดงคอนเทนต์ประเภทนั้นขึ้นมาให้เราเห็นเพิ่มขึ้น
- ประวัติการโต้ตอบของเรากับเจ้าของโพสต์
ถึงโพสต์นั้นจะมาจากคนที่เราไม่รู้จักมาก่อน แต่ถ้าเราเคยโต้ตอบกับเขา Instagram จะสันนิษฐานว่า เราอาจสนใจคอนเทนต์ที่เขาโพสต์ไว้ก่อน ทำให้เราเห็นคอนเทนต์เหล่านั้นได้เช่นกัน
- บุคคลที่โพสต์
เช่น มีคนเข้ามามีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลที่โพสต์มากหรือไม่ ถ้ามีจำนวนมาก แสดงว่าบุคคลนั้นน่าจะมีชื่อเสียง มีคนรู้จัก หรือเป็นที่นิยม และทำให้คอนเทนต์ของบุคคลนั้นน่าจะได้รับความนิยมตามไปด้วย
__________________
4. คลิป Reels
ปัจจัยที่ Instagram นำมาใช้ เรียงลำดับความสำคัญของคลิป Reels จากมากไปน้อย ได้แก่
- กิจกรรมของเรา
เช่นเดียวกับคอนเทนต์ประเภทอื่น คลิป Reels ไหนที่เราเคยกดไลก์ กดแชร์ รีโพสต์ Instagram ก็จะหาคลิป Reels ที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกันมาให้ดูเพิ่มเติม
- ประวัติการโต้ตอบของเรากับเจ้าของคลิป Reels
และเหมือนกับหน้า Explore ที่เราอาจจะไม่รู้จักเจ้าของคลิป Reels มาก่อนเลย แต่ถ้าเราเคยมีปฏิสัมพันธ์โต้ตอบกับเขามาก่อน เราก็มีโอกาสเห็นคลิป Reels ของเขาได้เช่นกัน
- ความนิยมของ Reels
ถ้าคลิป Reels ได้รับความนิยมสูง มีคนโต้ตอบเยอะ หรือใช้แทร็กเสียงและภาพในวิดีโอที่ได้รับความนิยม ก็มีโอกาสส่งให้เราเห็นได้เช่นกัน
- บุคคลที่โพสต์
Instagram จะดูความนิยมของคนโพสต์จากจำนวนผู้ติดตาม และระดับการมีส่วนร่วม เป็นสิ่งสำคัญอันดับสุดท้าย
แล้วเราจะนำข้อมูลนี้ไปใช้ทำอะไรได้บ้าง ?
สำหรับใครที่เป็นครีเอเตอร์หรือเป็นเจ้าของแบรนด์ ก็ทำให้ได้รู้ว่า เราควรให้ความสนใจกับอะไร เพื่อให้คอนเทนต์ของเราถูกมองเห็นเป็นวงกว้างมากขึ้น
ตัวอย่างเช่น
ถ้าเราทำคลิป Reels แล้วอยากให้มีการมองเห็นสูง ๆ ก็ต้องทำคลิป Reels ที่เน้นให้คนมีปฏิสัมพันธ์ก่อนเป็นอันดับแรก เช่น ไลก์ บันทึก คอมเมนต์ แชร์ รีโพสต์ หรือหยุดดูคลิปนาน ๆ
นอกจากนี้ก็ต้องเน้นเรื่อง การโต้ตอบกับบุคคลอื่น การใช้แทร็กเสียงที่ได้รับความนิยม การทำคลิปตาม
เทรนด์ การเพิ่มจำนวนผู้ติดตามและระดับการมีส่วนร่วม เพื่อให้คลิป Reels ได้รับการมองเห็นแบบสูงสุด
เทรนด์ การเพิ่มจำนวนผู้ติดตามและระดับการมีส่วนร่วม เพื่อให้คลิป Reels ได้รับการมองเห็นแบบสูงสุด
ทั้งหมดนี้ก็คือ หลักการที่เรียกว่า “Instagram Ranking”
ที่แบรนด์ ครีเอเตอร์ และคนทั่วไปที่สนใจเรื่องนี้ จำเป็นต้องรู้ ถึงวิธีการคิดเบื้องหลังของอัลกอริทึม Instagram นั่นเอง
Tag:Instagram