สรุป 14 คำศัพท์ธุรกิจ-การตลาด จากงาน ลงทุนแมน SUMMIT

สรุป 14 คำศัพท์ธุรกิจ-การตลาด จากงาน ลงทุนแมน SUMMIT

7 ต.ค. 2025
1. Brand Positioning = การวางตำแหน่งทางการตลาดให้แบรนด์ เพื่อสร้างจุดยืนที่แตกต่างจากคู่แข่ง
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่าย ๆ เช่น ตลาดไอศกรีม
- Swensen's วางตำแหน่งทางการตลาด เป็นแบรนด์ไอศกรีมที่มีความพรีเมียม มีรสชาติให้เลือกหลากหลาย
- MIXUE ววางตำแหน่งทางการตลาด เป็นแบรนด์ไอศกรีมระดับแมส คือราคาเข้าถึงง่าย ทานได้ทุกวัน ทุกวัย
การมี Brand Positioning ที่ชัดเจน จะทำให้แบรนด์สามารถทำการตลาดกับลูกค้าได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย
_________________
2. Affliliate = นายหน้าออนไลน์
หรือก็คือ ตัวกลางที่ช่วยโปรโมตสินค้าและบริการให้แบรนด์ต่าง ๆ ที่วางขายผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และเมื่อมีคนที่ซื้อสินค้าผ่านลิงก์ที่ตัวกลางโปรโมต ก็จะได้รับค่าคอมมิชชันตามที่แต่ละแพลตฟอร์มกำหนด เช่น 10-15% จากยอดขาย
_________________
3. UGC ย่อมาจาก User-Generated Content = คอนเทนต์โปรโมตสินค้าที่สร้างจาก ผู้ใช้งานจริงของแบรนด์ โดยที่แบรนด์ไม่ต้องเสียเงินจ้าง
หรือพูดอีกอย่างคือ กลยุทธ์ที่ทำให้ “ลูกค้าพูดแทนแบรนด์” ไม่ใช่แบรนด์โปรโมตเอง เช่น รีวิว, โพสต์โซเชียล, รูปภาพ, วิดีโอ
ซึ่งข้อดีคือ การที่มีลูกค้าตัวจริงพูดแทนแบรนด์ จะมีความน่าเชื่อถือสูงกว่าโฆษณาที่แบรนด์เป็นคนสร้าง
ตัวอย่างเช่น ร้านคาเฟ่ มีกลยุทธ์ที่กระตุ้นให้ลูกค้าทำ UGC คือ ให้ลูกค้าถ่ายบรรยากาศร้านลงโซเชียลมีเดีย พร้อมติดแฮชแท็ก (#) หรือ Mention ถึงเพจของร้าน เพื่อแลกรับสิทธิพิเศษจากทางร้าน
_________________
4. Word of Mouth Marketing = การตลาดบอกต่อ
กลยุทธ์การตลาดที่อาศัยลูกค้าเป็นกระบอกเสียง ให้ช่วยพูดถึงสินค้าหรือบริการของแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น การบอกกันแบบปากต่อปาก, การแนะนำเพื่อน, การแชร์ในโซเชียล หรือการรีวิว
ซึ่งก็จะคล้าย ๆ กับกรณีของ User-Generated Content
ข้อดีคือ มีความน่าเชื่อถือสูง เพราะโดยส่วนใหญ่แล้ว คนเรามักจะเชื่อคนใกล้ตัวมากกว่าโฆษณาจากแบรนด์
ตัวอย่างเช่น Netflix ที่ชอบสร้างกระแสซีรีส์ให้คนเกิดการรีวิวบอกต่อกัน เช่น ซีรีส์ Squid Game, สงครามส่งด่วน
_________________
5. Customer Experience = ประสบการณ์ของลูกค้า
ลูกค้ามีความรู้สึก มีประสบการณ์ร่วมกับแบรนด์อย่างไร ตั้งแต่ก่อนซื้อ ขณะซื้อ และหลังซื้อสินค้า
เช่น Apple ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า แบรนด์มีความพรีเมียม ใช้แล้วมั่นใจ
หรือน้ำหอมแบรนด์ไทย JOURNAL ที่เน้นสร้างประสบการณ์ร่วมให้ลูกค้า ด้วยการเล่าสตอรีชื่อของกลิ่นน้ำหอมเป็นเรื่องราวที่คนไทยคุ้นเคย
_________________
6. Customer Journey = เส้นทางการเดินทางของลูกค้า ตั้งแต่พบเห็นแบรนด์ จนถึงการบอกต่อ
ตัวอย่าง เส้นทางการเดินทางของลูกค้าที่นิยมใช้กันในการตลาดสมัยนี้ ประกอบไปด้วย 5 ลำดับ ได้แก่
การรับรู้ (Awareness) > การพิจารณา (Consideration) > การซื้อ (Purchase) > การใช้ซ้ำ (Retention) >การบอกต่อ (Advocacy)
_________________
7. Personalized Marketing = การตลาดเฉพาะบุคคล
เป็นกลยุทธ์การสื่อสารหรือนำเสนอสินค้า-โปรโมชัน ให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าแต่ละคน หรือก็คือ “การพูดกับลูกค้าทีละคน ในแบบที่พวกเขาอยากฟัง”
ตัวอย่างเช่น
- Shopee ที่แสดงสินค้า “ที่คุณสนใจ” ขึ้นมา โดยอาศัยพฤติกรรมการคลิกและการค้นหาในอดีตที่ผ่านมา เพื่อกระตุ้นให้เกิดความสนใจและเกิดการซื้อซ้ำ
เช่น ถ้าเราเคยซื้อหนังสือคินดะอิจิ ตอน คฤหาสน์เขาวงกต
ระบบก็จะแนะนำหนังสือคินดะอิจิเล่มอื่นให้ หรืออาจแนะนำหนังสือนิยายสืบสวนสอบสวน, ระทึกขวัญ หรือเนื้อหาใกล้เคียงมาให้ก็ได้
_________________
8. Conversation Search = การค้นหาข้อมูล ที่เหมือนกับการถามปัญหาทั้งประโยค
ในยุคที่ AI เข้ามาอยู่ในเกือบทุกแพลตฟอร์ม คนจำนวนมากเปลี่ยนพฤติกรรมการค้นหา จากเดิมที่ค้นหาแบบ Keyword search คือค้นหาทีละส่วนหรือทีละคำ
เปลี่ยนเป็นโยนปัญหา หรือพิมพ์ปัญหาเป็นประโยคคำถาม เป็นบทสนทนา ที่มีบริบท เพื่อถาม AI
เช่น ช่วยแนะนำ ร้านรองเท้าหนัง สำหรับใส่ไปงานแต่งงาน ในงบ 10,000 บาท
_________________
9. Hero Product = สินค้าหลักหรือ "สินค้าตัวเอก" ของแบรนด์
พูดง่าย ๆ ก็คือ เมื่อพูดถึงแบรนด์ A ก็จะนึกถึงสินค้า B ขึ้นมาทันที
ซึ่งสินค้า B นี้ เป็นสินค้าที่อาจจะตัวทำรายได้หลัก, เป็นสินค้าที่อยู่ในใจลูกค้า จึงเรียกสินค้าแบบนี้ว่า “Hero Product”
ยกตัวอย่างเช่น
Apple มีสินค้าหลายอย่าง แต่สินค้าที่หลายคนมักจะนึกถึงเป็นตัวเลือกแรก ๆ ก็คือ iPhone ที่เป็นสินค้าสร้างชื่อเสียงและสร้างรายได้หลักให้กับ Apple จนทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำ และเปิดทางให้กับสินค้าอื่น ๆ
_________________
10. CEO Branding = การสร้างแบรนด์ ผ่านภาพลักษณ์ของผู้บริหารหรือผู้นำของแบรนด์ ซึ่งจะช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่น่าจดจำ และความน่าเชื่อถือ ออกสู่สายตาสาธารณชนมากขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น
- การพรีเซนต์สินค้าใหม่ ๆ ที่แบรนด์ส่วนใหญ่มักจะให้ CEO ขึ้นมาพูดถึงตัวสินค้าเอง
อย่าง Tesla ที่คุณอีลอน มัสก์ จะมาพรีเซนต์การเปิดตัวรถยนต์ใหม่
ส่วนตัวอย่างในไทยที่ชัดเจนในเรื่องนี้ก็อย่างเช่น คุณซีเค เจิง CEO ของ Fastwork
_________________
11. IP ย่อมาจาก Intellectual Property) = ทรัพย์สินทางปัญญา ผลงานที่สร้างสรรค์ หรือประดิษฐ์คิดค้นขึ้นโดยมนุษย์
โดยกฎหมายของประเทศไทย มีทั้งหมด 2 ประเภท ได้แก่
- ลิขสิทธิ์ เช่น งานวรรณกรรม, งานนาฏกรรม, งานดนตรีกรรม, งานศิลปกรรม, งานภาพยนตร์
- ทรัพย์สินทางอุตสาหกรรม เช่น สิทธิบัตร, อนุสิทธิบัตร , แบบผังภูมิวงจรรวม และเครื่องหมายทางการค้า
_________________
12. SKU ย่อมาจาก Stock Keeping Unit = รหัสสินค้าที่ใช้ระบุสินค้าแต่ละชนิดในสต๊อก
โดยสินค้าที่เป็นคนละรุ่น, สี, ไซซ์, กลิ่น, รสชาติ, ขนาด หรือมีคุณลักษณะที่ไม่เหมือนกัน ก็จะมีรหัสแตกต่างกัน
โดย SKU ช่วยให้แบรนด์บริหารสต๊อกสินค้าได้แม่นยำมากขึ้น รู้ว่าสินค้าไหนขายดี ขายได้เร็ว จึงช่วยวางแผนกลยุทธ์การตลาดได้ดียิ่งขึ้น
เช่น ถ้าแบรนด์ขายเสื้อยืดทั้งหมด 3 รุ่น แต่ละรุ่นมี 3 สี คือ ขาว, ดำ, เทา และแต่ละสีมี 4 ขนาด คือ S, M, L, XL จะเท่ากับว่า แบรนด์มีสินค้าทั้งหมด 3 x 3 x 4 = 36 SKUs
_________________
13. OEM ย่อมาจาก Original Equipment Manufacturer = ผู้ผลิตที่รับจ้างผลิตสินค้าตามแบบของลูกค้า หรือแบรนด์
สมมติร้าน A ขายกระเป๋าตัง
แทนที่ร้าน A จะสร้างโรงงานและผลิตวัตถุดิบเองแต่ละชิ้น แต่ร้าน A เลือกใช้โรงงานที่รับผลิต หรือก็คือ OEM แทน
ซึ่งการที่ร้าน A เลือกผลิตแบบ OEM จุดเด่นคือ แบรนด์ไม่ต้องลงทุนสร้างโรงงานหรือไลน์การผลิตเอง
_________________
14. Phygital Retail = กลยุทธ์ค้าปลีกที่ผสานประสบการณ์ระหว่างโลกออฟไลน์ ที่มีสินค้าจับต้องได้ (Physical) และออนไลน์ (Digital) เข้าด้วยกัน
เช่น ร้านแว่นที่จำหน่ายทั้งช่องทางออนไลน์ และหน้าร้าน โดยลูกค้าสามารถเข้ามาลองแว่นที่หน้าร้าน แล้วสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ได้
_________________
เปิดจองบัตรดูย้อนหลัง ! ลงทุนแมน SUMMIT 2025 งานรวมสุดยอด 30 นักธุรกิจและนักลงทุนชั้นนำในประเทศไทย จัดเต็มเกือบ 20 SESSIONS & WORKSHOPS ใครพลาดงานนี้ มีขายบัตร RERUN ดูย้อนหลัง แต่มีจำนวนจำกัด จองก่อนได้แล้วที่ https://www.zipeventapp.com/e/longtunmansummit2025

บัตรราคา 990 บาท (ไม่รวม VAT)
สามารถได้ทุก Main Stage Sessions และทุก Workshop Sessions
เป็นระยะเวลา 2 เดือนหลังจบงาน ตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคม - 9 ธันวาคม 2568

งานนี้เหมาะกับใคร ?
✅ ผู้ที่ต้องการสร้างหรือต่อยอดความมั่งคั่งให้ตัวเอง
✅ ผู้ที่ต้องการหาแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจของตัวเอง
✅ ผู้ที่สนใจเรื่องธุรกิจ การตลาด
✅ ผู้ที่สนใจและอยากหาไอเดียการลงทุน

จองบัตร ดูย้อนหลังได้ที่ที่ลิงก์นี้ https://www.zipeventapp.com/e/longtunmansummit2025
© 2025 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.