LINE MAN โชว์กลยุทธ์ ACTTention ใช้ Full Funnel ดัน Co-collab เมนู Mali x Auntie Anne’s โต 1.2 เท่า

ในช่วงที่ผ่านมา ถ้าใครติดตามคอนเทนต์ของ TikToker หรือ YouTuber สาย Foodie น่าจะได้เห็นคอนเทนต์รีวิว Mali Toast Pretzel ซึ่งเป็นเมนู Exclusive จากความร่วมมือของ Mali x Auntie Anne’s มีขายที่หน้าเฉพาะหน้าร้าน Auntie Anne’s และบน LINE MAN เท่านั้น

เรียกได้ว่าเป็นการ Co-Branding ร่วมกันระหว่าง นมตรามะลิ x Auntie Anne’s x LINE MAN ที่ออกเมนูพิเศษร่วมกัน ดึงเอาจุดแข็งด้านการสร้างสรรค์คิดเมนูรสชาติ และวัตถุดิบใหม่ ๆ จากทั้งนมตรามะลิ และ Auntie Anne’s มารวมเป็นหนึ่งเดียวกัน

รวมถึงดึงเอาจุดแข็งทางด้านช่องทางการจัดจำหน่าย และพลังของการตลาดแบบ Full Funnel Marketing ของ LINE MAN มาใช้สร้างความน่าสนใจให้กับเมนู Exclusive นี้ จนทำให้ยอดขายบน LINE MAN เติบโตถึง 1.2 เท่า

คำถามคือ แล้วนมตรามะลิ x Auntie Anne’s x LINE MAN ทำอย่างไร ให้เมนูพิเศษในช่วงเวลาสั้น ๆ ประสบความสำเร็จได้ถึงขนาดนี้ MarketThink จะอธิบายให้อ่านกัน..

อันดับแรกเลย ต้องขอรีแคปแบบสั้น ๆ กันก่อนว่า เมนู Mali Toast Pretzel เป็นเมนู Exclusive ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของ 3 แบรนด์สำคัญ คือ นมตรามะลิ x Auntie Anne’s x LINE MAN

เป็นตัวอย่างของกลยุทธ์การตลาดที่เรียกว่า Co-Branding ที่ดึงเอาจุดแข็ง หรือความโดดเด่น ของแต่ละแบรนด์ออกมา เพื่อนำมาพัฒนาสินค้า บริการ หรือแคมเปญการตลาดร่วมกัน

ซึ่งในกรณีของการ Co-Branding ระหว่าง นมตรามะลิ x Auntie Anne’s x LINE MAN ก็คือการออกเมนู Exclusive ที่ชื่อว่า “Mali Toast Pretzel” ร่วมกัน โดยวางขายเฉพาะหน้าร้าน Auntie Anne’s และ LINE MAN เท่านั้น

โดยตลอดระยะเวลาที่เมนู Exclusive นี้วางขาย ทำให้ยอดขายของ Auntie Anne’s บน LINE MAN เพิ่มขึ้นถึง 1.2 เท่า

รวมถึงได้รับ Awareness อย่างมหาศาล จากบรรดา TikToker และ YouTuber ที่ทำคอนเทนต์รีวิวออแกนิก ซึ่งเป็นไวรัลอีกเป็นจำนวนมาก

เรื่องที่น่าสนใจก็คือ กลยุทธ์การตลาดที่อยู่เบื้องหลังเมนู Exclusive นี้ ไม่ได้มีเพียงกลยุทธ์ Co-Branding ระหว่าง นมตรามะลิ x Auntie Anne’s x LINE MAN ที่ดึงเอาจุดแข็ง หรือความโดดเด่นของแต่ละแบรนด์ มาออกเมนูพิเศษ เป็นมูฟเมนต์การตลาดที่น่าสนใจในช่วงปลายปีแบบนี้ เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

แต่ไฮไลต์จริง ๆ อยู่ตรงที่ กลยุทธ์การตลาดแบบ Full Funnel Marketing ซึ่งเป็นจุดแข็งสำคัญของ LINE MAN

เพราะ LINE MAN ไม่ได้เป็นเพียงแพลตฟอร์ม Food Delivery เพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็น Full Funnel Marketing Platform ที่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนไทยตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ครอบคลุม Customer Journey ของลูกค้าในทุกขั้นตอน

ด้วยการเชื่อมต่อผู้ใช้ ร้านค้า และไรเดอร์ เข้าด้วยกันผ่านทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ (O2O)

ซึ่งในแคมเปญ นมตรามะลิ x Auntie Anne’s x LINE MAN นี้ LINE MAN ได้นำจุดแข็งของตัวเอง ในการเป็น Full Funnel Marketing Platform มาใช้เป็นกลยุทธ์การตลาดหลัก ที่มีความเหมาะสมในทุกขั้นตอนของ Customer Journey โดยเฉพาะ

เกิดเป็นผลลัพธ์ทางการตลาด ทั้งการสร้างการรับรู้ การมีส่วนร่วม และยอดขาย ที่สามารถวัดผลได้จริง

ซึ่งหากอธิบายแบบเจาะลึกในเรื่องนี้ LINE MAN ได้ใช้กลยุทธ์การตลาด Full Funnel Marketing ที่ชื่อว่า “ACTTention” ซึ่งมีองค์ประกอบ และเทคนิควิธีดังนี้

1. A - Attract (การดึงดูดความสนใจในจังหวะที่ใช่)

ในช่วงแรก ๆ ของแคมเปญ สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกก็คือ การสร้างการรับรู้ เพื่อดึงดูดความสนใจ (Attract) ของผู้คนให้ได้

โดยสิ่งที่ LINE MAN ทำก็คือ การใช้กลยุทธ์ Co-Branding โดยการทำคอนเทนต์ “Collab” กันระหว่างคุณพิชญ์-พิชญเทพ ยุกตะเสวี ผู้บริหารรุ่นใหม่ของนมตรามะลิ ร่วมกับ LINE MAN เพื่อสร้างการรับรู้ และดึงดูดความสนใจ จากผู้คนในวงกว้างก่อนเป็นอันดับแรก

ทำให้คนรู้จักเมนู Exclusive “Mali Toast Pretzel” แบบเนียน ๆ นำเสนอผ่านคอนเทนต์ที่มีความน่าสนใจ จากตัวตนของคุณพิชญ์เอง

ซึ่งการทำคอนเทนต์ Collab นอกจากจะเป็นการสร้างการรับรู้ และดึงดูดความสนใจจากคนทั่วไปได้แล้ว ยังเป็นการดึงดูดให้ลูกค้าที่มีความสนใจซื้อสินค้าจริง (High-Intent Audience) เข้ามาที่แอปพลิเคชัน LINE MAN แล้วตัดสินใจซื้อได้เร็วยิ่งขึ้น

เรียกง่าย ๆ ก็คือ สิ่งที่ LINE MAN ทำคือการทำการตลาดที่เข้าถึงลูกค้าได้อย่างตรงจุด ไม่ใช่การตลาดแบบหว่านแห แต่เป็นการทำให้เกิด Conversion ได้จริง

2. C - Connect (เชื่อมต่อทั้งโลกออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน หรือ O2O)

หลังจากที่คนทั่วไปรู้จัก หรือมี Awareness กับแคมเปญนี้แล้ว ขั้นตอนต่อไปที่ LINE MAN ทำ ก็คือการเชื่อมต่อ (Connect) กับลูกค้าที่มีความสนใจซื้อ เข้ากับช่องทางการจัดจำหน่าย

ซึ่งในที่นี้ก็คือ หน้าร้าน Auntie Anne’s ทั้ง 257 สาขาทั่วประเทศ และหน้าร้าน Auntie Anne’s บนแพลตฟอร์ม LINE MAN

ทำให้เกิดเป็นช่องทางการจัดจำหน่ายที่เข้าถึงลูกค้าได้ครอบคลุมเกือบทั้งประเทศ โดยมีแพลตฟอร์ม LINE MAN เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อระหว่างลูกค้า ช่องทางออฟไลน์ (หน้าร้าน Auntie Anne’s) และช่องทางออนไลน์ (หน้าร้าน Auntie Anne’s บน LINE MAN) เข้าด้วยกัน

นอกจากนี้คำว่า Connect ยังหมายถึงการเชื่อมต่อกับลูกค้าผ่านเครื่องมือโฆษณาของ LINE MAN ที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบโฆษณาภายนอกแพลตฟอร์ม (CPAS)

เพื่อเก็บและนำข้อมูลความสนใจของลูกค้า บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ลูกค้าใช้งานอยู่เป็นประจำ มาทำการ Retargeting เพื่อกระตุ้นความสนใจของลูกค้าซ้ำ ๆ จนลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วย

3. T - Trigger (กระตุ้นให้เกิดการซื้อที่วัดผลได้จริง)

และขั้นตอนสุดท้ายที่ LINE MAN ทำกับแคมเปญนี้ก็คือ การกระตุ้นให้ลูกค้าเกิดการกระทำใด ๆ ตามที่ต้องการ (Conversion) ซึ่งในกรณีของแคมเปญนี้ก็คือ การตัดสินใจซื้อสินค้านั่นเอง

โดยกลยุทธ์ที่ LINE MAN ใช้ในขั้นตอนนี้ ก็มีทั้ง

- การให้โค้ดส่วนลด หรือการออกโปรโมชันพิเศษ แบบจำกัดจำนวนและระยะเวลา
- การสร้าง Bundle หรือ Package พิเศษ ที่สร้างความคุ้มค่าให้กับลูกค้า

ซึ่งทั้งการให้โค้ดส่วนลด การจัดโปรโมชันพิเศษ และการสร้าง Bundle หรือ Package พิเศษนั้น เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้จริง ได้ผลเร็ว รวมถึงวัดผลได้

เพราะจากสถิติพบว่า โค้ดส่วนลด และโปรโมชันพิเศษที่ LINE MAN ทำขึ้น ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จนโค้ดส่วนลดถูกใช้หมดภายในเวลาเพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น

รวมถึงเมนู Mali Toast Pretzel + ชีสซี่ ชิกเก้น ไบท์ส ซึ่งเป็นเมนู Bundle กลายเป็นเมนูขายดีของร้าน Auntie Anne’s บน LINE MAN ไปในที่สุด

ซึ่งเรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงการทำความเข้าใจพฤติกรรม และความชอบของลูกค้าได้อย่างแม่นยำของ LINE MAN จนสามารถออกแบบโค้ดส่วนลด โปรโมชันพิเศษ รวมถึงเมนู Bundle หรือ Package ที่ตรงใจลูกค้าได้

นอกจากนี้ LINE MAN ยังใช้กลยุทธ์กระตุ้นลูกค้าเก่าที่เคยซื้อแล้วให้กลับมาซื้อซ้ำ ผ่านโปรโมชันพิเศษระหว่างแคมเปญ เพื่อดันยอดขายและคงกระแสให้ต่อเนื่อง
สรุปแบบสั้น ๆ เทคนิควิธีทำการตลาด ที่กระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้อย่างแม่นยำของ LINE MAN แบ่งออกเป็น 3 ข้อ คือ

1. Attract

สร้างกระแส ดึงดูดความสนใจด้วยเมนู Exclusive ร่วมกับการทำคอนเทนต์ Co-Branding ที่ส่งตรงถึงลูกค้าแบบตรงจุด ไม่หว่านแห

2. Connect

เข้าถึงลูกค้าด้วยการเชื่อมโยงช่องทางออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน โดยมี LINE MAN เป็นตัวกลาง ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าได้ง่าย และทั่วถึงมากยิ่งขึ้น

3. Trigger

กระตุ้นการตัดสินใจซื้ออย่างรวดเร็ว ด้วยโค้ดส่วนลด โปรโมชัน และเมนู Bundle ที่ออกแบบมาตรงใจลูกค้ามากที่สุด

เมื่ออ่านมาจนถึงตรงนี้ หลายคนน่าจะอยากรู้ว่า กลยุทธ์ Full Funnel Marketing ที่ชื่อว่า ACTTention ของ LINE MAN ที่ใช้กับแคมเปญนี้ได้ผลอย่างไร ?

อันดับแรกขอเริ่มด้วยผลลัพธ์ที่จับต้องได้ง่ายที่สุดก็คือ “ยอดขาย” กันก่อน ที่พบว่ายอดขายของร้าน Auntie Anne’s บน LINE MAN เติบโตขึ้นถึง 1.2 เท่า ในช่วงระยะเวลาของแคมเปญ

แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้ยอดขายเลยก็คือ ผลลัพธ์ทางด้านการสร้างแบรนด์ (Branding) ที่ทั้ง นมตรามะลิ, Auntie Anne’s และ LINE MAN ได้รับจากแคมเปญนี้

เริ่มด้วย Auntie Anne’s ได้เมนู Exclusive เป็นมูฟเมนต์ทางด้านการตลาดที่มีความน่าสนใจในช่วงปลายปี สามารถดึงดูด และเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ ที่อาจไม่เคยเข้าถึงได้มาก่อน เป็นผลจากการใช้กลยุทธ์ Co-Branding ร่วมกับ นมตรามะลิ และ LINE MAN

ในขณะที่ นมตรามะลิ ได้เข้าถึงลูกค้าที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้เพิ่มเติม ทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ทันสมัย และเข้าถึงง่ายมากยิ่งขึ้น

รวมถึงยังได้ทดลองตลาด (Market Validation) โดยได้ทั้งข้อมูล พฤติกรรม และความชอบของลูกค้ากลับไป ซึ่งเป็นสิ่งที่มีมูลค่ามาก ๆ

และสุดท้าย LINE MAN ได้โชว์ภาพของตัวเองในฐานะ Marketing Partner ของแบรนด์ต่าง ๆ รวมถึงยังได้โชว์ความเก่งทางด้าน Full Funnel Marketing ของ LINE MAN

โดยใช้กลยุทธ์ ACTTention ที่ทำความเข้าใจลูกค้าได้อย่างตรงจุด รวมถึงสามารถสร้างผลลัพธ์ทางการตลาดที่วัดผลได้จริง

ทั้งหมดนี้ คือความน่าสนใจที่อยู่เบื้องหลังเมนู Mali Toast Pretzel ซึ่งเป็นแคมเปญ Co-Branding ของ นมตรามะลิ x Auntie Anne’s x LINE MAN ที่ไม่ได้มีความน่าสนใจอยู่ตรงที่ความแปลกใหม่ของเมนูเพียงอย่างเดียว

แต่ยังมีความน่าสนใจอยู่ตรงที่กลยุทธ์การตลาดแบบ Full Funnel Marketing ที่ LINE MAN ใช้สร้างยอดขายให้กับแคมเปญนี้..

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/lmwnxmktk