กรณีศึกษา เคล็ดลับของธุรกิจที่มีอายุ 3 รุ่น
22 ต.ค. 2020
หลายคนอาจจะเคยได้ยินประโยคที่ว่า “รุ่น 1 สร้าง รุ่น 2 สาน รุ่น 3 ทำลาย”
แต่ประโยคนี้อาจไม่ใช่สำหรับแบรนด์ออโรร่า ศรีจันทร์ และฮั่วเซ่งฮง..
แต่ประโยคนี้อาจไม่ใช่สำหรับแบรนด์ออโรร่า ศรีจันทร์ และฮั่วเซ่งฮง..
ทั้ง 3 แบรนด์นี้ มีอะไรที่เหมือนกัน
ถึงทำให้ธุรกิจอยู่มาได้นานถึง 3 รุ่น ?
ถึงทำให้ธุรกิจอยู่มาได้นานถึง 3 รุ่น ?
ธุรกิจแรก คือ ธุรกิจเพชรทอง ออโรร่า
ออโรร่า เริ่มต้นมาจาก คุณซุ่ยฮุย ช่างทองที่ผลิตและส่งทองให้กับร้านขายทองในเยาวราช ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 จากนั้นคุณซุ่ยฮุย ก็ได้ตัดสินใจเปิดร้านทองเป็นของตัวเองในปี พ.ศ. 2516 ซึ่งตอนนั้นใช้ชื่อว่า “ห้างทอง ซุ่ยเซ่งเฮง”
ต่อมา คุณประสิทธิ์ ศรีรุ่งธรรม ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 2 ของตระกูล ได้เข้ามารับช่วงต่อกิจการจากคุณพ่อ และได้ทำการเปลี่ยนชื่อร้านเป็น “ออโรร่า” ซึ่งถือว่าเป็นก้าวสำคัญ เพราะเป็นร้านทองเจ้าแรกที่ใช้ชื่อภาษาอังกฤษแทนชื่อจีน
จากนั้นคุณประสิทธิ์ก็เริ่มต้นการสร้างแบรนด์ให้ง่ายต่อการจดจำ โดยการปรับภาพลักษณ์ของร้านให้ดูทันสมัยขึ้น
อีกทั้งมีการปรับโมเดลธุรกิจและที่ตั้งของร้านทอง
จากที่แต่ก่อน คนที่อยากซื้อทอง ต้องไปเยาวราช
แต่ออโรร่าเป็นเจ้าแรกที่นำร้านทอง เข้าไปรุกตลาดโมเดิร์นเทรด
โดยเปิดสาขาแรกในศูนย์การค้าเดอะมอลล์ รามคำแหง เมื่อปี พ.ศ. 2529
จากที่แต่ก่อน คนที่อยากซื้อทอง ต้องไปเยาวราช
แต่ออโรร่าเป็นเจ้าแรกที่นำร้านทอง เข้าไปรุกตลาดโมเดิร์นเทรด
โดยเปิดสาขาแรกในศูนย์การค้าเดอะมอลล์ รามคำแหง เมื่อปี พ.ศ. 2529
มาถึงรุ่นทายาทที่ 3 คือ คุณอนิพัทย์ ศรีรุ่งธรรม
ออโรร่าก็มีการพัฒนารูปแบบธุรกิจใหม่อีกครั้ง
ออโรร่าก็มีการพัฒนารูปแบบธุรกิจใหม่อีกครั้ง
โดยการแตกไลน์ธุรกิจเพื่อจัดจำหน่ายเครื่องประดับเพชร ภายใต้ชื่อ “ออโรร่า ไดมอนด์”
และทองคำแท่ง ภายใต้ชื่อ “ออโรร่า เทรดดิ้ง” ที่สามารถซื้อขายทองแท่ง ผ่านทางหน้าร้านและระบบอินเทอร์เน็ตผ่านแอปพลิเคชันมือถือ
และทองคำแท่ง ภายใต้ชื่อ “ออโรร่า เทรดดิ้ง” ที่สามารถซื้อขายทองแท่ง ผ่านทางหน้าร้านและระบบอินเทอร์เน็ตผ่านแอปพลิเคชันมือถือ
ธุรกิจที่สอง คือ ธุรกิจเวชสำอาง ศรีจันทร์
แป้งศรีจันทร์ เริ่มมาจากร้านขายยาเล็กๆ แถววังบูรพา ชื่อ สหโอสถ
ซึ่งก่อตั้งโดยคุณพงษ์ หาญอุตสาหะ เมื่อปี พ.ศ. 2491
ซึ่งก่อตั้งโดยคุณพงษ์ หาญอุตสาหะ เมื่อปี พ.ศ. 2491
หลังจากนั้นคุณพงษ์ ก็ได้ซื้อสูตรผงหอมโบราณจากหมอเหล็ง ศรีจันทร์
พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น “ศรีจันทร์สหโอสถ”
พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น “ศรีจันทร์สหโอสถ”
หลังจากนั้นคุณพงษ์ หาญอุตสาหะ ก็ส่งต่อกิจการให้กับ คุณมาตร หาญอุตสาหะ ซึ่งเป็นทายาทรุ่น 2
แต่ในช่วงนั้นยังไม่มีการปรับโครงสร้างธุรกิจ ไม่ใช้คอมพิวเตอร์
และไม่ปรับสินค้าให้ตอบโจทย์ลูกค้ายุคใหม่ และเกิดปัญหาในการจัดส่งอยู่บ่อยครั้ง
จึงส่งผลให้ยอดขายเริ่มลดลงเรื่อยๆ
แต่ในช่วงนั้นยังไม่มีการปรับโครงสร้างธุรกิจ ไม่ใช้คอมพิวเตอร์
และไม่ปรับสินค้าให้ตอบโจทย์ลูกค้ายุคใหม่ และเกิดปัญหาในการจัดส่งอยู่บ่อยครั้ง
จึงส่งผลให้ยอดขายเริ่มลดลงเรื่อยๆ
ต่อมาในปี พ.ศ. 2549 คุณรวิศ หาญอุตสาหะ ซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 3 ก็ได้ลาออกจากงานประจำ กลับมาบริหารธุรกิจครอบครัว
คุณรวิศ เริ่มทำการรื้อโมเดลธุรกิจเก่า นำคอมพิวเตอร์มาใช้
และปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ใหม่ (Rebrand)
โดยการเปลี่ยนแพ็กเกจจากรูปโลโก้เทวดา มาเป็นบรรจุภัณฑ์ใหม่ให้เป็นตลับที่ดูสดใส
พร้อมกับแป้งส่วนผสมใหม่ โดยยึดว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะต้องไม่ทำให้ลูกค้าเดิมหายไป
ในขณะเดียวกันก็ทำให้มีฐานลูกค้าใหม่เข้ามาด้วย
และปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ใหม่ (Rebrand)
โดยการเปลี่ยนแพ็กเกจจากรูปโลโก้เทวดา มาเป็นบรรจุภัณฑ์ใหม่ให้เป็นตลับที่ดูสดใส
พร้อมกับแป้งส่วนผสมใหม่ โดยยึดว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะต้องไม่ทำให้ลูกค้าเดิมหายไป
ในขณะเดียวกันก็ทำให้มีฐานลูกค้าใหม่เข้ามาด้วย
นอกจากนั้น คุณรวิศ ยังเป็นคนนำ แป้งศรีจันทร์ เข้าวางขายใน 7-Eleven
ไปลงพื้นที่แจกสินค้าให้ลูกค้าได้ทดลองใช้ฟรีด้วยตัวเอง
และได้เพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายในการส่งถึงบ้าน โดยมีโปรโมชัน จัดส่งฟรี ช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่าย และทั่วถึงทั้งประเทศ
ไปลงพื้นที่แจกสินค้าให้ลูกค้าได้ทดลองใช้ฟรีด้วยตัวเอง
และได้เพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายในการส่งถึงบ้าน โดยมีโปรโมชัน จัดส่งฟรี ช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่าย และทั่วถึงทั้งประเทศ
ธุรกิจที่สาม ธุรกิจอาหารจีน ฮั่วเซ่งฮง
ฮั่วเซ่งฮง ก่อตั้งโดยคุณมานพ พิริยเลิศศักดิ์
โดยการเริ่มต้นธุรกิจขายอาหารจีนในปี พ.ศ. 2510 ในอาคารพาณิชย์บนถนนเยาวราช
และมีเมนูเด็ดคือ กระเพาะปลา และมีอาหารจีนอีกบางเมนู
โดยการเริ่มต้นธุรกิจขายอาหารจีนในปี พ.ศ. 2510 ในอาคารพาณิชย์บนถนนเยาวราช
และมีเมนูเด็ดคือ กระเพาะปลา และมีอาหารจีนอีกบางเมนู
ต่อมาในปี พ.ศ. 2514 ฮั่วเซ่งฮง
ก็ปรับรูปแบบของร้านให้มีความทันสมัยขึ้น
และปรับเปลี่ยนเมนูให้มีความหลากหลายกว่าเดิม
เนื่องจากมีลูกค้าคนจีนเพิ่มมากขึ้น
ก็ปรับรูปแบบของร้านให้มีความทันสมัยขึ้น
และปรับเปลี่ยนเมนูให้มีความหลากหลายกว่าเดิม
เนื่องจากมีลูกค้าคนจีนเพิ่มมากขึ้น
ในปี พ.ศ. 2539 ทายาทรุ่นที่ 2 คือ คุณจิรวรรณ พิริยเลิศศักดิ์
ก็ขยายสาขาของฮั่วเซ่งฮงเพิ่มอีกสาขา โดยชื่อว่า “ฮ่องกงติ่มซำ”
เนื่องจากสินค้าที่จำหน่ายส่วนใหญ่ คือ ติ่มซำ
โดยมีการปรับแต่งร้านให้มีความร่วมสมัย ปรับเปลี่ยนเมนูเพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น
ก็ขยายสาขาของฮั่วเซ่งฮงเพิ่มอีกสาขา โดยชื่อว่า “ฮ่องกงติ่มซำ”
เนื่องจากสินค้าที่จำหน่ายส่วนใหญ่ คือ ติ่มซำ
โดยมีการปรับแต่งร้านให้มีความร่วมสมัย ปรับเปลี่ยนเมนูเพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น
เมื่อธุรกิจถูกส่งต่อมาถึงทายาทรุ่นที่ 3 คือ คุณพิสิทธิ์ พิริยเลิศศักดิ์
ฮั่วเซ่งฮงติ่มซำ ก็ได้มีการต่อยอดธุรกิจ โดยการปรับรูปแบบธุรกิจให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น
ด้วยการย่อขนาดภัตตาคารให้เป็น Pop-Up Store ขยายสาขาในปั๊มปตท. มอเตอร์เวย์ รถไฟฟ้าทั้ง MRT และ BTS รวมไปถึงอาคารสำนักงานต่างๆ
ฮั่วเซ่งฮงติ่มซำ ก็ได้มีการต่อยอดธุรกิจ โดยการปรับรูปแบบธุรกิจให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น
ด้วยการย่อขนาดภัตตาคารให้เป็น Pop-Up Store ขยายสาขาในปั๊มปตท. มอเตอร์เวย์ รถไฟฟ้าทั้ง MRT และ BTS รวมไปถึงอาคารสำนักงานต่างๆ
ปัจจุบัน ภัตตาคารฮั่วเซ่งฮง ยังคงพัฒนาสูตรอาหาร
ปรับเปลี่ยนเมนูให้ทันความต้องการของลูกค้า แต่ก็ยังคงสูตรโบราณเอาไว้เช่นกัน
ปรับเปลี่ยนเมนูให้ทันความต้องการของลูกค้า แต่ก็ยังคงสูตรโบราณเอาไว้เช่นกัน
จากกรณีศึกษาของทั้งสามธุรกิจนี้ สิ่งที่เราเห็นก็คือ
1)ทั้งธุรกิจเครื่องประดับ ธุรกิจผลิตภัณฑ์เวชสำอาง และธุรกิจอาหารต่างก็ไม่มีใครหยุดนิ่ง ในการพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์กับผู้บริโภคยุคใหม่
2)ทั้งสามธุรกิจ พยายามทำตัวเองให้ใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากที่สุด
ทั้งจากการเข้าโมเดิร์นเทรด การจับมือกับพาร์ตเนอร์ใหญ่ๆ เพื่อขยายสาขา
ทั้งจากการเข้าโมเดิร์นเทรด การจับมือกับพาร์ตเนอร์ใหญ่ๆ เพื่อขยายสาขา
3)แม้ว่าจะต้องมีการปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจหรือสินค้าให้ทันยุคสมัย
แต่สุดท้ายแล้วทุกแบรนด์ก็ยังคงต้องรักษาแก่นของธุรกิจ (Core Value) เอาไว้เหมือนเดิม
แต่สุดท้ายแล้วทุกแบรนด์ก็ยังคงต้องรักษาแก่นของธุรกิจ (Core Value) เอาไว้เหมือนเดิม
จากเรื่องนี้ เราก็สามารถสรุปได้ว่า
การปรับตัวให้ทันการเปลี่ยนแปลง
การพยายามเข้าใกล้และเข้าใจลูกค้า
และรักษาคุณค่า หรือแก่นของธุรกิจตัวเองเอาไว้
คือเคล็ดลับส่วนหนึ่ง ที่ทำให้ธุรกิจสามารถอยู่มาได้ ถึงสามรุ่น..
การปรับตัวให้ทันการเปลี่ยนแปลง
การพยายามเข้าใกล้และเข้าใจลูกค้า
และรักษาคุณค่า หรือแก่นของธุรกิจตัวเองเอาไว้
คือเคล็ดลับส่วนหนึ่ง ที่ทำให้ธุรกิจสามารถอยู่มาได้ ถึงสามรุ่น..
อ้างอิง :
-https://www.prachachat.net/breaking-news/news-205132
-https://www.thailandrestaurantnews.com/food-business/%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AE%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AE/
-https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/870502
-https://www.brandbuffet.in.th/2018/11/aurora-45-gold-jewelry-history/
-https://huasenghongdimsum.com/about-us/
-https://amarinacademy.com/3959/management/huasenghong/
-https://www.prachachat.net/breaking-news/news-205132
-https://www.thailandrestaurantnews.com/food-business/%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AE%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%AE/
-https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/870502
-https://www.brandbuffet.in.th/2018/11/aurora-45-gold-jewelry-history/
-https://huasenghongdimsum.com/about-us/
-https://amarinacademy.com/3959/management/huasenghong/