แนวคิด การทำธุรกิจ กับ “การจับปลา” ในปี 2021

แนวคิด การทำธุรกิจ กับ “การจับปลา” ในปี 2021

29 ธ.ค. 2020
สิ้นสุดปี 2020 อย่างเป็นทางการ เชื่อว่าปีที่ผ่านมา เป็นปีที่ไม่ง่ายเลยสําหรับใครหลายๆ คน
เพราะการระบาดครั้งใหญ่ของโรคโควิด 19 ได้สร้างบาดแผล และผลกระทบให้ทุกธุรกิจอย่างถ้วนหน้าไม่มากก็น้อย
เนื่องในโอกาสเริ่มต้นปีใหม่ Head100 ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์
จึงส่งต่อแรงบันดาลใจ ให้ธุรกิจพร้อมรับมือกับปี 2021 ผ่านเรื่องราวการสอนจับปลา ฉบับยุค 2021 เพื่อให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน
หากจะเปรียบให้เห็นภาพง่ายๆ การประกอบธุรกิจจริงๆ แล้วก็เหมือนกับการจับปลา
ว่ากันว่า การทําธุรกิจสมัยก่อน ถึงเส้นทางจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่หากเปรียบกับสถานการณ์ยุค ปัจจุบันต้องบอกว่า เมื่อก่อนอะไรก็เป็นใจ ดูง่ายไปซะหมด
ง่าย.. เหมือนมีปลาต่อคิวมาให้จับ
ง่าย.. เหมือนปลาเต็มใจกระโดดใส่มือ ทั้งๆ ที่ไม่ตั้งใจจะจับ
แน่นอนว่าในปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นชัดๆ ว่า ภาพที่เห็นก่อนหน้านั้นเหมือนเป็นเพียงโฆษณาขายฝัน เพราะในความเป็นจริงคําว่า ‘ง่าย’ แทบจะถูกลบออกไปจากพจนานุกรมฉบับ 2020 ด้วยซํ้า
ปีนี้มีหลายเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อการดําเนินชีวิตและธุรกิจแบบเต็มๆ ชนิดที่ใครหลายคนไม่ทันได้ตั้งตัวและไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นมาก่อน
หลังจากนี้ การจับปลาจะไม่ง่ายเหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะเมื่อปลาไม่มาต่อแถวหรือกระโดดเข้าใส่เหมือนก่อนแล้ว สิ่งที่ต้องทําในปี 2021 คือ การเตรียมพร้อม และเดินหน้าหาปลา เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด
-ก่อนออกเรือต้อง ตั้งสติแผนสําคัญ 50% ลงมือทําสําคัญ 50%
ในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนนี้ การออกเรือจับปลาทันทีโดยไม่มีแผนหรือเป้าหมายที่ชัดเจน เหมือนเป็นการก้าวขา 1 ข้างสู่ความล้มเหลว เพราะแน่นอนว่าความเสี่ยงในสถานการณ์เช่นนี้ มักสูงกว่าในช่วงเวลาปกติ
ดังนั้น สิ่งสําคัญคือ การใช้เวลากับขั้นตอนการวางแผนอย่างละเอียดและรอบคอบ
จะไปจับปลาที่ไหน ด้วยวิธีอะไร และเราต้องการปลาชนิดไหน เป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้
เพราะ จุดเริ่มต้นจะเป็นการกําหนดทิศทางที่สําคัญให้กับธุรกิจในระยะยาว
และแน่นอนว่า ถ้าแผนดี.. ยังไงก็ มีชัยไปกว่าครึ่ง
อีก 50% ที่จะเข้ามาเติมเต็มความสําเร็จ คือ การลงมือทํา
เพราะต่อให้แผนที่ตั้งใจวาดฝันไว้ จะสวยหรูและมีโอกาสสําเร็จแค่ไหน
แต่หากไม่ลงมือทํา สุดท้ายแผนที่วางไว้จะกลายเป็นแค่กระดาษแผ่นหนึ่งที่ไร้ค่า
ดังนั้น หากเราพร้อมและมั่นใจกับสิ่งที่คิดแล้ว ให้รีบลงมือทําทันทีอย่ารอช้า เพราะทุกวินาทีมีความหมายกับธุรกิจเสมอ
-เรือที่ดีประกอบด้วยอะไร.. สําคัญ คือ คนต้องใช่ และเรือต้องไว
สิ่งสุดท้ายที่ต้องเตรียมให้พร้อมก่อนออกเดินทางไปจับปลา คือ เรือที่ดี เพราะเรือที่เราใช้จะเป็นใบเบิกทางสู่ความสําเร็จของธุรกิจ โดยเรือที่ดีนั้นประกอบไปด้วย..
“คนต้องใช่” เพราะเพื่อนร่วมเดินทางนั้นเป็นปัจจัยสําคัญสู่ความสําเร็จ เราต้องเลือกคนที่โดน พร้อมสกิลที่อยากได้ (Team skill) มองเห็นเป้าหมายเดียวกัน พร้อมที่จะเดินหน้าอย่างเต็มที่ไปด้วยกัน และมีความสามารถพาเรือของเราไปสู่จุดหมายที่หวังไว้ได้
และอีกสิ่งที่ต้องเข้าใจ คือ เราไม่จําเป็นต้องเก่งที่สุดทุกเรื่อง แต่เราต้องเลือกพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจที่เหมาะสมที่สุด (Right partnership) มาช่วยเติมเต็มในสิ่งที่เราขาด พร้อมพากันติดสปีดไปได้ไกลแบบก้าวกระโดด
“เรือต้องไว” อีกองค์ประกอบที่สําคัญไม่แพ้กันคือความเร็วของเรือ
เรือที่เราใช้เปรียบได้กับ การดําเนินงานของธุรกิจ สถานการณ์แบบนี้เรือที่ดีต้องแล่นได้เร็ว (Speed) แต่จะแค่แล่นฉิวอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องปรับเปลี่ยนได้เร็วอีกด้วย (Agility)
เนื่องจากความแน่นอนเดียวในช่วงเวลานี้คือ ความไม่แน่นอน
ภาพฝันที่เคยวาดไว้อาจต้องเปลี่ยนกะทันหันในพริบตา ดังนั้นกลยุทธ์ของเราต้องปรับเปลี่ยนได้ทันเหตุการณ์ เหมือนเรือที่พร้อมปรับเปลี่ยนทิศทางเลี่ยงสิ่งกีดขวางได้เสมอ
-จะเดินทางไปทางไหน Data มีค่า
เมื่อกายพร้อม ใจพร้อม และเรือพร้อม ก็ถึงเวลาสําหรับการออกเดินทางหาปลาที่ต้องการสักที
แต่จะออกเรือไปทางไหน และไปอย่างไรนั้น การมีตัวช่วยนําทางที่สําคัญอย่างข้อมูล (Data & insight) ช่วยทําให้การเดินทางง่ายขึ้นเยอะ..
ในยุคที่เทคโนโลยีเฟื่องฟูเช่นนี้ ข้อมูลที่ดีนั้นกระจายอยู่ทั่วทุกที่
เชื่อว่าหลายองค์กรเองก็มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์อยู่เต็มมือ ไม่ว่าจะด้วยการเก็บข้อมูลลูกค้า หรือการสังเกตจากพฤติกรรม
สิ่งสําคัญคือ เราต้องใช้ข้อมูลเหล่านี้ให้เป็น เพราะข้อมูลดีอย่างเดียวไม่พอ เราต้องเลือกวิเคราะห์เพื่อต่อยอดเป็นกลยุทธ์ให้ได้
-ลองแล้วล้มเป็นเรื่องปกติต้อง test-learn-run
หากเริ่มลงมือจับปลาแล้วผลไม่เป็นอย่างที่หวัง ให้เข้าใจเสมอว่าโลกความจริงไม่ง่ายอย่างที่คิด
ทุกครั้งที่เราลงมือทํา ย่อมมีทั้งโอกาสประสบความสําเร็จและโอกาสที่จะล้มไม่เป็นท่า
สิ่งสําคัญ คือ ทุกครั้งที่ล้มเราต้องลุกให้ได้แข็งแกร่งกว่าเดิม โดยเรียนรู้จากทุกข้อผิดพลาดที่ผ่านมา เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้ตรงจุด และนําแผนมาปรับให้การลงมือครั้งต่อไป มีโอกาสผิดพลาดน้อยที่สุด
-ลูกค้าอยู่ทุกที่ต้องเข้าถึงแบบ O2O
จําไว้เสมอว่าที่ไหนมีแม่นํ้า ที่นั่นย่อมมีปลา.. ไม่ว่าจะเป็นนํ้าจืดหรือนํ้าเค็ม ไม่ว่าจะอยู่เหนือผิวนํ้า แถบปะการัง หรือแม้กระทั่งใต้โขดหิน
ถ้ามีพื้นที่พอให้แหวกว่ายได้ แน่นอนว่าที่นั่นมีโอกาสเสมอ
เช่นเดียวกับการทําธุรกิจ โอกาสในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้านั้นมีอยู่ไม่สิ้นสุด ด้วยพลังของเทคโนโลยี และอินเตอร์เน็ต ทําให้เราสามารถเชื่อมต่อกันได้ใกล้ชิดกว่าที่เคย
ดังนั้น การมีตัวตนทุกช่องทางแบบ O2O (Online to Offline) ถือเป็นการสร้างโอกาสที่ดีในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าอย่างครอบคลุม
-แม่นํ้าต้องมีหลายสาย กระจายความเสี่ยง กระจายแหล่งรายได้
สุดท้ายนี้ สิ่งที่เรายํ้าอยู่ตลอดคือหนทางข้างหน้ายังมีความไม่แน่นอนสูง ไม่ว่าธุรกิจทุกวันนี้ จะเป็นอย่างไร ประสบความสําเร็จมากแค่ไหน ต้องไม่ลืม “กระจายความเสี่ยง กระจายแหล่งรายได้” ให้เหมาะสมเสมอ
เพราะการมีหลายแหล่งรายได้ (Revenue stream) นอกจากจะช่วยต่อยอดโอกาสให้เติบโตได้ต่อไปแล้ว
วันใดหากเกิดเหตุการณ์รุนแรงกระทบต่อแม่นํ้าสายไหน จะได้ถือเป็นการกระจายความเสี่ยงให้ธุรกิจไม่หยุดชะงัก ไม่เจ็บหนักเหมือนที่ผ่านมา
ซึ่งการต่อยอดนี้ สามารถทําได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการบุกตลาดออนไลน์ การสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ตลาด การปั้นแบรนด์ให้แข็งแรง การขยายสู่ช่องทางใหม่ๆ หรือ แม้แต่การขยายกิจการสู่ตลาดต่างประเทศ เป็นต้น
ติดตามเรื่องราวของแบรนด์ต่างๆ ที่จะช่วยเติมแรงบันดาลใจให้ธุรกิจได้ที่ www.head100company.com
บทวิเคราะห์โดย Head100
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.