กรณีศึกษา เมื่อ “เดอะ พิซซ่า คอมปะนี” กำลังเขย่าเมนู วิงซ์แซ่บ ของ KFC

ใครจะไปคิดว่า “เดอะ พิซซ่า คอมปะนี” จากที่เคยขาย พิซซ่า เป็นเมนูหลัก
ส่วน เมนูไก่ทอด จะเป็นแค่เมนูรองๆ

มาวันนี้ “เดอะ พิซซ่า คอมปะนี” กำลังคิดจะขาย “ไก่ทอด” จริงจัง
เพราะ จากเดิมที่มีไก่ทอดแค่ 3 รสชาติ แต่รู้หรือไม่ว่าตอนนี้ “เดอะ พิซซ่า คอมปะนี”
พัฒนาไก่ทอดมาเป็น 6 รสชาติ เลยทีเดียว
โดยจากเดิมมีแค่ 3 รสชาติคือ ไก่เกาหลี, ไก่เกาหลีสไปซี่ และ ไก่บาร์บีคิว

เรื่องนี้มันมีเบื้องหลังที่น่าสนใจไม่น้อย ที่ใครหลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน
ว่าลูกค้า 5 ใน 10 คนที่เดินเข้ามาใน “เดอะ พิซซ่า คอมปะนี”
เลือกสั่งเมนูไก่เพื่อทานคู่กับพิซซ่า หรือไม่ก็สั่งเมนูไก่อย่างเดียว

นั่นแปลว่าลูกค้าของ “เดอะ พิซซ่า คอมปะนี” ไม่ได้ชื่นชอบแค่ พิซซ่า ของแบรนด์นี้อย่างเดียว
แต่ยังชื่นชอบ ไก่ทอด อีกด้วย

จึงกลายเป็นที่มาของการเปิดตัวเมนูไก่ 3 รสชาติใหม่​
ไม่ว่าจะเป็น ไก่ไข่เค็มไชโย, ไก่เผ็ดเจ็ดย่านน้ำ และไก่ทอดหาดเล็ก ภายใต้เซทที่ชื่อว่า “ทีมชิคเก้น”

โดยใช้วิธีตั้งราคาขายใกล้เคียงกับเมนูไก่ที่เคยขายอยู่แล้วก่อนหน้านี้
คือ 6 ชิ้น ราคา 129 บาท เลือกไก่ได้ 1 รสชาติ
แต่ถ้า 10 ชิ้น ราคา 199 บาท เลือกไก่ได้ 2 รสชาติ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มแจ่ว
แล้วถ้าใครเกิดอยากทานไก่ทอดคู่กับข้าวเหนียว ก็สั่งเพิ่มได้ในราคา 15 บาท

ที่น่าสนใจก็คือการเพิ่ม 3 รสชาติใหม่นี้ “เดอะ พิซซ่า คอมปะนี”
ต้องการให้ผู้บริโภครู้ว่าตัวเองก็มีเมนู ไก่ทอด ที่รสชาติอร่อยไม่แพ้ใคร

โดยความเคลื่อนไหวครั้งนี้ ก็น่าจะสร้างความกังวลใจให้แก่เจ้าตลาดอย่าง KFC ที่มีเมนู “วิงซ์แซ่บ”
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น

หากเราดูเมนูเซท “ทีมชิกเก้น” จะเป็นน่องและปีกไก่เล็กๆ ที่เหมือนกับ วิงซ์แซ่บ ของ KFC
เพียงแต่ความ “ต่าง” มันอยู่ที่ “เดอะ พิซซ่า คอมปะนี” มีให้เลือกถึง 6 รสชาติ
ขณะที่ KFC จะมีให้เลือกแค่รสชาติเดียว นอกจากจะมีแคมเปญการตลาด ถึงจะมีรสชาติใหม่ๆ เพิ่มเข้ามา
แล้วก็เป็นการขายแค่ชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น

นั่นหมายความว่าการที่ “เดอะ พิซซ่า คอมปะนี” มีเซท ทีมชิคเก้น ที่มีให้เลือกถึง 6 รสชาติ
ก็น่าจะทำให้ผู้บริโภคที่ทานไก่วิงซ์แซ่บ KFC ที่มีรสชาติเดียว เริ่มเบื่อและอยากจะลองเมนูอะไรใหม่ๆ
อาจ “ปันใจ” มาทดลองเมนู ทีมชิกเก้น ของ “เดอะ พิซซ่า คอมปะนี” ก็เป็นไปได้

เป็นการเสิร์ฟความแปลกใหม่ที่แตกต่างจากเจ้าตลาด ไก่ทอด
ด้วยวิธีการใช้รสชาติอันหลากหลายนั่นเอง

ที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือการเพิ่มเมนูไก่ทอดด้วย “ทีมชิกเก้น” ครั้งนี้
ก็น่าจะช่วยเพิ่มยอดขายต่อบิลมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทานในร้านหรือสั่งกลับบ้านผ่าน 426 สาขา
จนถึงการสั่งออเดอร์ทางออนไลน์ผ่าน App Food Delivery 1122, Grab, Line Man เป็นต้น

เพราะจากเดิมลูกค้าอาจสั่งแค่ พิซซ่า ก็จะเพิ่มเมนูไก่ทอด เข้ามาด้วย
จนถึงการได้ออเดอร์ที่ลูกค้าอยากจะทานแค่ไก่ทอด เพียงอย่างเดียว

อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจสงสัยว่าการมาเริ่มขายไก่ทอดแบบจริงจังของ “เดอะ พิซซ่า คอมปะนี” จะทำให้ภาพของแบรนด์คลุมเครือหรือไม่

ก็ต้องตอบว่าไม่ใช่ เพราะ พิซซ่า ก็ยังคงเป็นเมนูหลักของทาง “เดอะ พิซซ่า คอมปะนี”
เพียงแต่การขาย ไก่ทอด จริงจังนั้น มันเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้แก่ตัวเอง

เป็นเรื่องธรรมดาของโลกธุรกิจในยุคนี้
เมื่อทุกบริษัทสามารถข้ามมาทำธุรกิจอะไรก็ได้ ที่ตัวเองมองเห็นโอกาส
แล้ว“เดอะ พิซซ่า คอมปะนี” ก็มองเห็นโอกาสของตลาด ไก่ทอด ที่มากขึ้นกว่าเดิม

เพราะอย่าลืมว่าตลาดไก่ทอด ครองส่วนแบ่งมากกว่า 50%
ในตลาดร้านอาหารบริการด่วน (QSR) ซึ่งมีมูลค่ากว่า 45,000 ล้านบาท

และก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย หากในอนาคต “เดอะ พิซซ่า คอมปะนี”
จะมีเมนูอะไรใหม่ๆ ที่เราคาดไม่ถึง เข้ามาเสริมทัพ​เพื่อสนับสนุนยอดขายตัวเองนอกจากการขาย พิซซ่า

เพราะเวลานี้หากเราดูวิธีคิดในการทำธุรกิจของ “เดอะ พิซซ่า คอมปะนี”
กำลังต้องการให้ลูกค้าที่อยากทานไก่ทอดหรือ พิซซ่า ก็ให้มานั่งทานที่ร้านตัวเอง

จนถึงลูกค้าที่สั่งออนไลน์ นอกจากสั่ง พิซซ่า แล้วก็อยากให้หลงลืมเจ้าตลาดไก่ทอดอย่าง KFC
รวมถึงแบรนด์อื่นๆ ที่มี เมนูไก่ทอด
ด้วยการสั่ง ทีมชิคเก้น ไก่ทอดของ เดอะ พิซซ่า คอมปะนี นั้นเอง

จะทำได้หรือไม่นั้น สุดท้ายก็คงต้องไปวัดกันที่ รสชาติไก่ทอด

Reference : ข่าวประชาสัมพันธ์ บริษัท ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)