กรณีศึกษา น้ำผสมวิตามิน VITMORES+ ทำอย่างไร ให้แตกต่างและดึงดูดคนกลุ่มพรีเมียมแมส (Premium Mass)

กรณีศึกษา น้ำผสมวิตามิน VITMORES+ ทำอย่างไร ให้แตกต่างและดึงดูดคนกลุ่มพรีเมียมแมส (Premium Mass)

18 ต.ค. 2021
รู้หรือไม่ ? ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ประเมินภาพรวมตลาดเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ในประเทศ ปี 2564 ไว้ว่า จะมีมูลค่าแตะ 2 แสนล้านบาทเลยทีเดียว
โดยกลุ่มเครื่องดื่มที่มีแนวโน้มว่าจะเติบโตเยอะที่สุดก็คือ กลุ่มฟังก์ชันนัลดริงก์ อย่างเครื่องดื่มวิตามิน
เพราะเป็น “เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ” ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องสุขภาพคือเรื่องสำคัญมากที่สุดของทุกคน ในตอนนี้
ซึ่งคิง เพาเวอร์ ก็ได้ให้บริษัทในเครืออย่าง มัลติพลาย บาย เอท ส่งแบรนด์เครื่องดื่มวิตามิน VITMORES+ เข้ามาเล่นในตลาดนี้ ด้วยกระแสน้ำดื่มวิตามิน ที่กำลังเติบโตแรงในไทย
แต่เพื่อสร้างความแตกต่างในตลาด ทาง VITMORES+ จึงได้วางตำแหน่งตัวเอง ให้เป็นน้ำวิตามินที่พรีเมียมที่สุดในตลาด เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าพรีเมียมแมส (Premium Mass)
และเพื่อให้สามารถเจาะกลุ่มพรีเมียมแมสได้สำเร็จ ทาง VITMORES+ จึงได้วางกลยุทธ์ตั้งแต่เรื่องของการตลาด เริ่มจากการเปิดตัว TVC พร้อมกับพรีเซนเตอร์ ที่เป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ที่ดูแลสุขภาพ มีความสดใส และเป็นที่รู้จักสำหรับกลุ่มเป้าหมาย นั่นก็คือ “อิ๊งค์” วรันธร เปานิล
โดยโฆษณาตัวนี้ จะบอกเล่าถึงตัวช่วยที่ทำให้ “อิ๊งค์” ดูสุขภาพดีและสดใสในแต่ละวันทั้งที่มีกิจกรรมมากมาย และนอกจากนี้ยังมีโฆษณาออนไลน์เวอร์ชั่นเต็ม ที่เป็นการจำลองสถานการณ์ในชีวิตจริง ที่คนใช้ชีวิตแล้วไม่รู้ว่าตัวเองต้องเติมวิตามิน มาเล่าในห้องประชุม ให้สนุกแบบ entertainment
แล้วแบรนด์ VITMORES+ มีความน่าสนใจ และแตกต่างจากน้ำวิตามินอื่นอย่างไรบ้าง ?
สิ่งแรกที่เราเห็นจากแบรนด์ VITMORES+ แล้วรู้สึกโดดเด่นเลยก็คือ ตัวแพ็กเกจจิง
ซึ่งถือเป็นข้อสำคัญอันดับต้น ๆ ในการช่วยดึงความสนใจจากลูกค้าบนชั้นวาง ที่เต็มไปด้วยแบรนด์คู่แข่งมากมาย
โดยแพ็กเกจจิงของ VITMORES+ จะมีลักษณะเป็นขวดแคปซูล เด่นสะดุดตา ช่วยสร้างการจดจำให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งการใช้ขวดแคปซูล ก็เพื่อตอกย้ำในเรื่องของการเป็นแบรนด์ที่ใส่ใจด้านสุขภาพ
และจุดเด่นที่สำคัญอีกเรื่องก็คือ VITMORES+ เป็นแบรนด์น้ำผสมวิตามินที่ ‘ให้มากกว่า’ วิตามิน คือมีแร่ธาตุสำคัญจากต่างประเทศ อีกทั้งยังมีสารสกัดจาก Acerola Cherry ซึ่ง VITMORES+ นั้นเป็นเจ้าแรกในตลาดน้ำวิตามินที่มีส่วนผสมของ Acerola Cherry
ซึ่งแร่ธาตุและวิตามินทั้งหมดจะใส่ในปริมาณที่ร่างกายต้องการพอเหมาะต่อวัน ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ปราศจากแคลอรี และน้ำตาล 0% ซึ่งความหวานจะใช้สารทดแทนความหวานจากธรรมชาติ
อย่าง Stevia (หญ้าหวาน) และ Erythritol แทน
โดยมีให้เลือก 2 รสชาติ ดังนี้
1. VITA C - PLUS VITAMIN C 200% รสเลมอนเนด ขวดสีเหลือง
VITMORES+ นั้นเป็นเจ้าแรกในตลาดน้ำวิตามินที่มีส่วนผสมของ Acerola Cherry โดยจะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวใส ชุ่มชื้น และไม่หมองคล้ำ ซึ่งจะมีส่วนผสมหลักเป็นวิตามิน C ที่สูงถึง 200% และผสมวิตามิน B2, B3, B6 พร้อมคอลลาเจนจากญี่ปุ่น ซึ่งช่วยในเรื่องของการสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ไปพร้อมกับช่วยเรื่องผิวใส
และในเรื่องของรสชาติ รสเลมอนเนด มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน กลมกล่อม ไม่มีน้ำตาล ไม่มีวัตถุกันเสีย ทำให้ดื่มง่าย
2. REVITALIZED VITAMIN รสพีชญี่ปุ่น ขวดสีชมพู
น้ำผสมวิตามิน A, D, E, K โดยวิตามิน D และ K นำเข้ามาจากสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประสิทธิภาพในด้านการบำรุงผิว สายตา กระดูก และระบบไหลเวียนโลหิต ทำให้ผิวพรรณแลดูอ่อนกว่าวัยและยังมีโคเอนไซม์ คิวเทน (Coenzyme Q10) ที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย ทำให้ผิวดูอ่อนกว่าวัย
และรสพีชญี่ปุ่น มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว หอมกลิ่นพีชอ่อนๆ ดื่มง่าย ไม่มีน้ำตาล และไม่ใส่วัตถุกันเสีย
โดยน้ำผสมวิตามินทั้ง 2 รสชาตินี้ วางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ เซเว่น อีเลฟเว่น (7-ELEVEN) ทุกสาขา
ในราคาขวดละ 30 บาท
ช่วงนี้มีโปรโมชั่น 2 ขวด 45 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 23 ตุลาคม 2564
สามารถติดตามข่าวสารและกิจกรรมของ VITMORES+ เพิ่มเติมได้ที่
FB Fanpage: Vitmores+
IG: vitmores.official และ www.vitmores.com
จะเห็นได้ว่า แม้ในอุตสาหกรรมเดียวกัน จะมีคู่แข่งมากมายขนาดไหน แต่ถ้าหากแบรนด์วางการตลาดให้ถูกจุด ไม่ละทิ้งความสร้างสรรค์ ตั้งแต่แพ็กเกจจิง ไปจนถึงการพัฒนาสูตรใหม่ ๆ มันก็จะช่วยสร้างโอกาส ที่ทำให้ลูกค้ารู้จักและจดจำแบรนด์ได้ง่ายขึ้น
เหมือนกับที่แบรนด์ VITMORES+ ท้าชนด้วยพรีเซนเตอร์ที่เหมาะสม แพ็กเกจจิงที่ทันสมัย และมาพร้อมกับสรรพคุณที่คุ้มค่า จนสามารถสร้างความแตกต่างและดึงดูดคนกลุ่มแมสได้..
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.