Amazon มีรายได้จากค่าโฆษณาแซงหน้า YouTube และหนังสือพิมพ์ทั่วโลกรวมกัน ในปีที่ผ่านมา

ล่าสุด Amazon ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซจากสหรัฐฯ ได้เปิดผลประกอบการจากธุรกิจโฆษณาเป็นครั้งแรก
และเผยว่า รายได้การโฆษณาของบริษัท แซงหน้ารายได้โฆษณาของ YouTube ไปเรียบร้อยแล้ว

โดยในไตรมาสที่ 4 ปี 2021
Amazon มีรายได้จากโฆษณา (Ad Revenue) ที่ 320,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% จากปีที่แล้ว

และหากมาดูรายได้จากการโฆษณาอย่างเดียว ทั้งปี 2021 ของ Amazon และ YouTube จะเห็นได้ว่า

- Amazon มีรายได้จากโฆษณา 1,023,200 ล้านบาท
- YouTube มีรายได้จากโฆษณา 950,600 ล้านบาท

ทั้งนี้ รายได้รวมทั้งหมดของ Amazon ในปี 2021 อยู่ที่ 15,506,500 ล้านบาท เติบโตขึ้น 22% จากปีก่อนหน้า
หรือก็คือ รายได้จากโฆษณาของ Amazon คิดเป็นสัดส่วน 6.6% จากรายได้ทั้งหมดของบริษัท

โดยคุณ Benedict Evans นักวิเคราะห์ ได้โพสต์บน Twitter ว่า
“รายได้จากโฆษณาของ Amazon นั้น มีรายได้ใกล้เคียงกับอุตสาหกรรมหนังสือพิมพ์ทั่วโลกรวมกัน และทาง Statista ได้ประเมินเม็ดเงินโฆษณาประจำปี 2021 ของหนังสือพิมพ์ทั่วโลกอยู่ที่ 973,700 ล้านบาท เท่านั้น”

ซึ่งเดิมทีแล้ว คนส่วนมากจะคุ้นเคยกับ Amazon ในฐานะบริษัทอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของโลก และผู้ให้บริการคลาวด์

ส่วนธุรกิจโฆษณานั้น แม้ว่าจะทำเม็ดเงินให้มหาศาล แต่ทาง Amazon ก็ไม่เคยแยกตัวเลขผลประกอบการออกมาให้เห็นแบบชัดเจน

โดย Amazon ให้บริการโฆษณาบนเว็บไซต์ และการปลุกหน้าจอ (Wake Screen) บนแท็บเล็ตบางรุ่น โดยใช้คำค้นหาจากลูกค้าเพื่อช่วยกำหนดกลุ่มเป้าหมายโฆษณา ซึ่งมักจะเป็นโฆษณาของแบรนด์/ร้านค้า ที่ขายสินค้าอยู่บน Marketplace ของ Amazon

ซึ่งก็มีนักวิเคราะห์ออกมาพูดกันว่า การขายพื้นที่โฆษณาบนแพลตฟอร์มดิจิทัลนั้น เป็นการสร้างรายได้ที่ดีในช่วงเวลาที่มีแต่ความไม่แน่นอนแบบนี้

อีกทั้งทาง Amazon ดูจะมีความแข็งแกร่งในธุรกิจโฆษณา และไม่ได้รับผลกระทบเหมือนแพลตฟอร์มอื่น ๆ
เพราะเมื่อวานนี้ ทาง Meta เพิ่งจะเปิดเผยว่า “รายได้ของ Facebook ซึ่งมาจากการโฆษณาเป็นส่วนใหญ่ มีแนวโน้มจะลดลงกว่า 3 แสนล้านบาท ใน 2022 เนื่องจากนโยบายด้านความเป็นส่วนตัวของ Apple ทำให้ Facebook ยิงโฆษณาได้ยากขึ้น”

แต่ทาง Amazon กล่าวว่า นโยบายด้านความเป็นส่วนตัวของ Apple ไม่ได้มีผลกระทบอะไรต่อการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่ของบริษัท..

พอเห็นแบบนี้ ก็ทำให้บางคนถึงกับมองว่าธุรกิจโฆษณาของ Amazon นั้น ค่อนข้างมั่นคงคล้ายกับของ Google ที่มีข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายที่มาจากเครือข่ายเสิร์ชเอนจิน และระบบปฏิบัติการ Android ของทางบริษัทเอง
และทำให้สามารถลอยตัวเหนือปัญหาจากการเปลี่ยนแปลงความเป็นส่วนตัวในระบบ iOS ของ Apple นั่นเอง..

อ้างอิง:
-https://www.reuters.com/business/media-telecom/amazon-trots-out-youtube-sized-advertising-business-2022-02-04/
-https://www.statista.com/statistics/273708/global-newspaper-advertising-expenditure/#:~:text=It%20was%20calculated%20that%20newspaper,25.8%20billion%20dollars%20by%202024.