กลยุทธ์ ไทยเวียตเจ็ท ปี 2566 รุกขยายเส้นทางบิน “ต่างประเทศ”

กลยุทธ์ ไทยเวียตเจ็ท ปี 2566 รุกขยายเส้นทางบิน “ต่างประเทศ”

3 ม.ค. 2023
“ปี 2565 ที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเป็นปีที่ยอดเยี่ยมของไทยเวียตเจ็ท”
นี่คือคำแถลงของไทยเวียตเจ็ท ในการประกาศผลประกอบการปี 2565
หลาย ๆ คนอาจสงสัยว่า แล้วอะไรที่ทำให้ไทยเวียตเจ็ทประกาศว่า ปี 2565 คือปีที่ยอดเยี่ยมที่สุด ?
ไทยเวียตเจ็ท มักจะเป็นสายการบินแรก ๆ เวลาที่หลายคนนึกถึงสายการบินราคาประหยัด
ปัจจุบัน ไทยเวียตเจ็ท ได้ขยายเส้นทางบินภายในประเทศ จนครอบคลุมทั้งภาคเหนือ, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ กว่า 12 เส้นทาง
ไม่ว่าจะเป็น จากกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่เชียงใหม่, เชียงราย, ภูเก็ต, กระบี่, อุดรธานี, หาดใหญ่, ขอนแก่น, นครศรีธรรมราช, อุบลราชธานี และสุราษฎร์ธานี
ทั้งหมดนี้ คิดเป็นเฉลี่ย 100 เที่ยวบินต่อวัน
ทำให้ ไทยเวียตเจ็ท ครองส่วนแบ่งทางการตลาดเส้นทางบินภายในประเทศ เป็นอันดับ 2 ของประเทศเลยทีเดียว
นอกจากนี้ ไทยเวียตเจ็ท ก็ยังมีเส้นทางบินข้ามภูมิภาค จากภูเก็ต สู่เชียงใหม่ และเชียงรายอีกด้วย
แต่เพียงแค่นี้ คงยังไม่พอ..
อย่างที่ใครก็รู้กันว่า ช่วง 2-3 ปีมานี้ หลาย ๆ ประเทศประกาศปิดประเทศ เพื่อป้องกันโรคระบาด
แต่พอมาในปี 2565 ที่สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย หลาย ๆ ประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศไทย ได้ผ่อนปรนมาตรการ ให้นักท่องเที่ยวออกมาโลดแล่นและเดินทางได้อีกครั้ง
ซึ่งไทยเวียตเจ็ทก็ไม่รอช้า เป็นเจ้าแรก ๆ ที่กลับมาเปิดให้บริการเส้นทางบินระหว่างประเทศทันที
ปัจจุบัน ไทยเวียตเจ็ท ได้ขยายเส้นทางบินไปประเทศต่าง ๆ ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกครอบคลุมกว่า 8 เส้นทาง
ไม่ว่าจะเป็น เส้นทางบินกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่ สิงคโปร์, ฟูกูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น, ไทเป ประเทศไต้หวัน, พนมเปญ ประเทศกัมพูชา
และอีกหลายเส้นทางบินสู่ประเทศเวียดนาม ทั้งโฮจิมินห์ซิตี, ดานัง, ดาลัด และฟู้โกว๊ก
ส่งผลให้ ไทยเวียตเจ็ท คาดว่า ในปี 2565 จะขนส่งผู้โดยสารรวม 6.1 ล้านคน แบ่งออกเป็น
- ผู้โดยสารในประเทศ 5.4 ล้านคน
- ผู้โดยสารระหว่างประเทศ 700,000 คน
หรือถ้าเทียบง่าย ๆ ในปี 2565 มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นกว่า 232% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
อ่านมาถึงตรงนี้ ก็คงไม่แปลกใจว่า ทำไมปี 2565 ถึงเป็นปีที่ยอดเยี่ยมที่สุดของไทยเวียตเจ็ท
แต่ไทยเวียตเจ็ทก็ยังเชื่ออีกด้วยว่า ในปีหน้าก็จะเป็นปีที่ดีไม่แพ้กัน
แล้วทำไมไทยเวียตเจ็ทถึงเชื่อแบบนั้น ?
นั่นก็เพราะว่า ไทยเวียตเจ็ทจะเริ่มทำการตลาดเชิงรุก หันไปโฟกัสกับเส้นทางบินต่างประเทศมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็น ประเทศเวียดนาม, จีน, รวมถึงประเทศแถบเอเชียตะวันออก เช่น ญี่ปุ่น และไต้หวัน
ซึ่งในขณะนี้ ไทยเวียตเจ็ท ก็ได้เริ่มทดลองแผนการรุกเที่ยวบินต่างประเทศไปบ้างแล้ว เช่น
- เส้นทางบิน กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่ดาลัด ประเทศเวียดนาม
แม้ว่า ไทยเวียตเจ็ท จะมีเส้นทางบินสู่เวียดนามแล้วหลายเมือง
แต่เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ก็เพิ่งกลับมาเปิดให้บริการเส้นทางบินกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)-ดาลัด อีกครั้ง
ซึ่งดาลัด เป็นหนึ่งในเมืองขึ้นชื่อของเวียดนาม มีอากาศเย็นตลอดปี และเป็นตัวเลือกแรก ๆ ที่คนไทยหลาย ๆ คนเลือกเดินทางไปเยือน
- เส้นทางบิน เชียงใหม่ สู่โอซากา ประเทศญี่ปุ่น
นับตั้งแต่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 ไทยเวียตเจ็ทตั้งเป้าประเดิมเส้นทางบินต่างประเทศใหม่
นั่นก็คือ เชียงใหม่-โอซากา ประเทศญี่ปุ่น เมืองยอดฮิตที่คนไทยนิยมปักหมุดไปเที่ยว โดยจะให้บริการสัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน
ในเส้นทางบินนี้ นอกจากจะเป็นการเพิ่มความสะดวกให้ชาวเชียงใหม่ หรือคนภาคเหนือ ให้สามารถเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางมาขึ้นเครื่องบินที่กรุงเทพฯ หรือไม่ต้องต่อเที่ยวบินให้เสียเวลา
อีกทั้งยังเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ให้เดินทางมาท่องเที่ยวเชียงใหม่ หนึ่งในจังหวัดขึ้นชื่อของประเทศไทยอีกด้วย
สอดคล้องกับไทยเวียตเจ็ท ที่กล่าวว่า เส้นทางนี้จะมีผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นชาวญี่ปุ่นนั่นเอง
จากทั้งหมดนี้ ไทยเวียตเจ็ท คาดว่า ในอนาคตสัดส่วนเส้นทางบินต่างประเทศ จะพลิกกลับมามีสัดส่วนมากกว่าเส้นทางบินภายในประเทศ
เดือนมกราคม ปี 2565 เส้นทางบินในประเทศ 99% เส้นทางบินต่างประเทศ 1%
เดือนธันวาคม ปี 2565 เส้นทางบินในประเทศ 59% เส้นทางบินต่างประเทศ 41%
ปี 2566 เส้นทางบินในประเทศ 33% เส้นทางบินต่างประเทศ 67%
ปี 2570 เส้นทางบินในประเทศ 15% เส้นทางบินต่างประเทศ 85%
และเมื่อสัดส่วนเส้นทางบินต่างประเทศเพิ่มขึ้น
ก็จะส่งผลให้มีจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศมากขึ้นด้วย
จากเดิมปี 2565 มีจำนวน 700,000 คน สู่ปี 2566 คาดว่าจะมี 2.7 ล้านคนเลยทีเดียว
อีกทั้งเพื่อเป็นการรองรับเส้นทางบินต่างประเทศ
ไทยเวียตเจ็ท จึงเตรียมขยายฝูงบินเพิ่มเป็น 20 ลำ ภายในต้นปี 2566 ด้วย
มาถึงตรงนี้ ก็พอจะสรุปได้ว่า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ไทยเวียตเจ็ทจะรุกขยายเส้นทางบินต่างประเทศอย่างเต็มกำลัง
ซึ่งเรื่องนี้ก็มีแต่ข้อดี..
เริ่มจากไทยเวียตเจ็ท จะสามารถสร้างรายได้ได้มากขึ้น จากเส้นทางบินใหม่ ๆ
หลังเส้นทางบินภายในประเทศอยู่ตัว เพราะครอบคลุมเส้นทางเกือบทั้งหมดแล้ว
รวมไปถึงยังสามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องบินได้อย่างเต็มที่
นั่นก็เพราะน้ำมันเครื่องบิน จะใช้เยอะที่สุดช่วง Take Off และ Landing
การบินในเส้นทางยาว จึงมีความคุ้มค่ามากกว่า
อีกทั้งจากเดิมเส้นทางบินในประเทศ มักจะไม่ค่อยได้ใช้เครื่องบินในตอนกลางคืน ก็จะสามารถนำเครื่องบินที่จอดทิ้งไว้เฉย ๆ มาใช้งานเป็นเที่ยวบินกลางคืน ในเส้นทางบินต่างประเทศได้นั่นเอง
ส่วนในแง่ของลูกค้า เชื่อว่าน่าจะเป็นข่าวดีสำหรับหลาย ๆ คน
เพราะจะมีตัวเลือกในการเดินทางมากขึ้น รวมถึงอาจมีเส้นทางบินใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้น
และสุดท้าย ยังเป็นตัวเลือกดี ๆ ที่ช่วยดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมายังประเทศไทย และสร้างรายได้ให้กับประเทศมากขึ้นอีกด้วย..
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.