Meta เผยวิธีเพิ่มประสิทธิภาพด้านการตลาดสูงสุดด้วย Advantage Suite ที่ขับเคลื่อนด้วย AI

ปัจจุบัน ความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยและบริบทด้านประชากรมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ส่งผลให้ในปัจจุบัน ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับ “คุณค่าที่ได้รับ” มากขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

ผู้บริโภคชาวไทยมองหาข้อเสนอสุดคุ้ม โปรโมชัน และราคาสินค้าที่จับต้องได้ เวลาจับจ่ายซื้อของต่าง ๆ และจากการเปิดรับในการนำบริการและสื่อดิจิทัลมาใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศ ผู้บริโภคชาวไทยจึงมองหาประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์ที่ราบรื่นขึ้นและตอบโจทย์ความต้องการของตนเองได้มากขึ้นด้วย

สำหรับธุรกิจแล้ว การเติบโต ต้นทุน และประสิทธิภาพล้วนเป็นปัจจัยอันดับต้น ๆ ที่ผู้บริหารให้ความสำคัญมากที่สุด เพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งกำลังเป็นความเสี่ยงที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดและส่งผลกระทบต่อหลากหลายอุตสาหกรรมในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยอยู่ในตำแหน่งที่แตกต่างจากประเทศอื่น ๆ เนื่องจากมีการคาดการณ์สถานการณ์โดยรวมเชิงบวก พร้อมความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งจากผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น และสภาพแวดล้อมด้านการจับจ่ายที่ดีกว่า เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

และเพื่อให้ได้รับประโยชน์จากปัจจัยดังกล่าว ธุรกิจต้องการแน่ใจว่าพวกเขาจะได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าจากค่าใช้จ่ายด้านการตลาดต่าง ๆ และกำลังมองหาเครื่องมือและโซลูชันออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อช่วยให้พวกเขาเชื่อมต่อกับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ทั้งลูกค้าและธุรกิจต่างต้องการเพิ่มคุณค่าสูงสุดให้กับเม็ดเงินของพวกเขา รวมถึงเชื่อมต่อเข้าหากันได้ง่ายขึ้น และ Meta สามารถเข้ามาตอบโจทย์ในส่วนนี้เพื่อปลดล็อคคุณค่าให้กับทุกคนได้อย่างแท้จริง

คุณภารดี สินธวณรงค์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด ของ Facebook ประเทศไทย จาก Meta เปิดเผยว่า Meta กำลังช่วยสนับสนุนธุรกิจต่าง ๆ ในการเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดด้านการตลาดด้วยการใช้เครื่องมือที่หลากหลายจากแพลตฟอร์มต่าง ๆ ในเครือของ Meta

เช่น การตลาดผ่านการค้นพบ (Discovery Commerce) และเครื่องมือตัวช่วยสำหรับนักการตลาด Meta Advantage รวมไปถึงโซลูชันต่าง ๆ ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI

โดยหนึ่งในพันธกิจที่สำคัญของ Meta คือการช่วยเหลือพันธมิตรให้ประสบความสำเร็จในการเร่งอัตราการเติบโตของธุรกิจของพวกเขา โดยการเติบโตถูกพัฒนามาจากการเชื่อมต่อระหว่างธุรกิจและกลุ่มลูกค้า และการเชื่อมต่อถูกพัฒนามาจากชุมชน

ในปัจจุบัน ชุมชนของ Meta มีความแข็งแกร่งมากขึ้น โดยมีข้อมูลที่น่าสนใจ ดังนี้มีผู้ใช้ 3.8 พันล้านคนที่ใช้งานแอปในเครือของ Meta เป็นประจำในแต่ละเดือน (ซึ่งมีจำนวนราวครึ่งหนึ่งของประชากรที่มีอยู่ทั้งหมดทั่วโลก)

- มีผู้ใช้ราว 3 พันล้านคนที่ใช้งาน Facebook เป็นประจำในแต่ละเดือน
- เฉพาะในประเทศไทย มีผู้ใช้ 65 ล้านคนที่ใช้งาน Facebook เป็นประจำในแต่ละเดือน
- มีการส่งข้อความ 1.4 แสนล้านข้อความผ่านเทคโนโลยีของ Meta ในแต่ละวัน
- กว่า 50% ของผู้ใช้ประจำ รับชมวิดีโอผ่านแอปในเครือของ Meta
- มีธุรกิจกว่า 200 ล้านแห่งทั่วโลกที่อยู่บนแพลตฟอร์มของ Meta

สำหรับ Meta Discovery Commerce เป็นระบบสร้างอุปสงค์แบบครบวงจรด้วยเทคโนโลยี AI ซึ่งช่วยสร้างผลลัพธ์ทางการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นผ่านการรวบรวมข้อมูล (data integrations) การแสดงข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่สร้างการมีส่วนร่วม ตลอดจนเครื่องมือด้านการโฆษณา สื่อ และการวัดประสิทธิภาพต่าง ๆ

จากรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ประจำปี 2566 ของ Meta เผยว่ากว่า 20% ของเนื้อหาที่ปรากฎบนฟีดของ Facebook และ Instagram เป็นการแนะนำจากระบบ AI นอกจากนั้นระบบ AI ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้เพิ่มขึ้นกว่า 20% ในการแนะนำเนื้อหาโฆษณาที่มีความเกี่ยวข้องและประสบการณ์เครื่องมืออัตโนมัติที่ดียิ่งขึ้นสำหรับนักการตลาด

โดยโซลูชันเหล่านี้จะช่วยนำเสนอสินค้าและบริการกับผู้ที่สนใจมากที่สุดได้โดยตรง ธุรกิจต่าง ๆ จึงสามารถเชื่อมข้อมูลทางการตลาดเข้ากับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้นผ่านระบบแมชชีนเลิร์นนิ่งและข้อมูลบนแพลตฟอร์มของ Meta

เครื่องมือโฆษณาและคอนเวอร์ชั่นยังช่วยนำเสนอประสบการณ์ช้อปปิ้งที่ไร้รอยต่อ จึงสร้างผลตอบแทนจากค่าโฆษณา (Return on Ad Spend) ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นการวางโฆษณาแบบอัตโนมัติ (Automated performance): ช่วยทุ่นแรงผ่านการสร้างกลยุทธ์อัตโนมัติ

ไม่ว่าจะเป็นการเสนอขาย (Prospecting) การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเดิม (Remarketing) หรือการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ (Custom Audience) ที่เคยวางไว้แล้วก่อนหน้านี้ ได้ทั้งหมดในแคมเปญเดียว

ยกตัวอย่างเช่น
- การโฆษณาที่ปรับแต่งแบบเฉพาะตัว (Personalization): เสนอผลิตภัณฑ์ให้กับผู้ที่สนใจ ผ่านข้อมูลที่ผู้บริโภคแชร์
- เครื่องมือ Creative: ช่วยสร้างแคตตาล็อกสินค้าที่น่าสนใจยิ่งขึ้นผ่านเทมเพลทครีเอทีฟต่าง ๆ

โดยปัจจุบัน คนไทยกว่า 67% ซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ในแต่ละสัปดาห์
54% ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อติดตามและดูคอนเทนต์จากแบรนด์
ในขณะที่ 46% ระบุว่าต้องการชมโฆษณาเกี่ยวกับสินค้าที่ตัวเองสนใจ

จากข้อมูลดังกล่าว Meta Advantage Suite ซึ่งเป็นระบบ AI เน้นผลลัพธ์ สามารถนำเสนอโซลูชันอัตโนมัติเพื่อช่วยระบุกลุ่มลูกค้าที่มองหาสินค้าของธุรกิจต่าง ๆ อย่างเฉพาะเจาะจง

ผลิตภัณฑ์ Advantage+ ของ Meta ยังช่วยให้ธุรกิจบรรลุผลลัพธ์ทางการตลาดได้ดียิ่งขึ้นผ่านการโฆษณาที่ปรับแต่งแบบเฉพาะตัว ทั้งยังสามารถเก็บข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและชาญฉลาดยิ่งขึ้น ว่าแคมเปญในลักษณะไหนที่สามารถเปลี่ยนเป็นยอดขายได้ และนำเสนอตัวเลือกโฆษณาที่ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจได้ตรงจุดที่สุด

- โซลูชัน Advantage+ Shopping Campaigns สำหรับการสร้างแคมเปญการตลาดที่สามารถสร้างขึ้นได้เองง่าย ๆ และรวดเร็ว โดยใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์อัตโนมัติต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการเข้าถึงและผลลัพธ์ของโฆษณาโดยรวม

- โซลูชัน Advantage+ App Ads และ Advantage+ Catalog Ads ใช้เทคโนโลยี AI และแมชชีนเลิร์นนิ่งเพื่อสร้างตัวเลือกโฆษณาแบบต่าง ๆ โดยอัตโนมัติ นำเสนอแคตตาล็อคสินค้าหรือรูปภาพในการทำโฆษณาต่าง ๆ แบบไม่ซ้ำ (สามารถสร้างตัวเลือกโฆษณาได้สูงสุดถึง 150 แบบในครั้งเดียว) จึงช่วยย่นระยะกระบวนการ เก็บข้อมูล เพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญ และใช้ประโยชน์จากเม็ดเงินลงทุนการตลาดได้อย่างเต็มที่

ธุรกิจที่ใช้โซลูชันการตลาด Advantage+ Shopping ต่าง ๆ ได้อย่างเต็มศักยภาพ จะสามารถสร้างผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่า โดยใช้ต้นทุนต่อการดำเนินการ (Cost per Action) ลดลง 17% และได้รับผลตอบแทนจากค่าโฆษณา (Return on Ad Spend) เพิ่มขึ้น 32% เลยทีเดียว