[Repost]ถอดรหัส แผนธุรกิจเชิงรุกของ CMG สู่เป้าหมายยอดขายกลุ่มสินค้าความงามเติบโต 20%

[Repost]ถอดรหัส แผนธุรกิจเชิงรุกของ CMG สู่เป้าหมายยอดขายกลุ่มสินค้าความงามเติบโต 20%

22 มิ.ย. 2023
[Repost จาก ลงทุนแมน]
หัวใจหลักของธุรกิจด้านตัวแทนจัดจำหน่าย คืออะไร ?
คำตอบคือ การค้นหาสินค้าและบริการใหม่ ๆ มาตอบโจทย์พฤติกรรมและเทรนด์โลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา 
เป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักที่ เซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้งกรุ๊ป หรือ CMG ใช้สร้างการเติบโต จนมาถึงวันนี้
ปัจจุบัน CMG บริหารแบรนด์ระดับโลกกว่า 40 แบรนด์ในประเทศไทย ผ่านกลุ่มสินค้ามากมาย เช่น สินค้าแฟชั่น, ความงาม, นาฬิกา, รองเท้า, เครื่องประดับ และผลิตภัณฑ์สำหรับบ้าน 
ส่วนความเคลื่อนไหวล่าสุดของ CMG คือ การสร้างกระแสในตลาดสินค้าความงาม ที่ทำเอาเหล่าสาว ๆ ต่างพูดถึงเมื่อได้สิทธิจัดจำหน่าย Hermès Beaute แบรนด์สินค้าความงาม ที่อยู่ในเครือ Hermès ซึ่งเป็นแบรนด์แฟชั่น Luxury ระดับโลกจากประเทศฝรั่งเศส
ที่น่าสนใจคือ การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของ CMG มีเป้าหมายที่น่าสนใจ เมื่อต้องการให้สินค้าในกลุ่มความงามเติบโต 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน
CMG จะทำเรื่องนี้ได้สำเร็จหรือไม่นั้น
ลงทุนแมนจะวิเคราะห์ให้ฟัง 
นับตั้งแต่วิกฤติโควิด 19 คลี่คลายลง หนึ่งในอุตสาหกรรมที่โตระเบิด คือ อุตสาหกรรมความงาม เพราะเมื่อคนเริ่มออกจากบ้านเพื่อทำสารพัดกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งไปทำงาน ไปเที่ยว หรือพบเจอเพื่อน ก็ย่อมต้องการให้ตัวเองดูดีในสายตาคนรอบข้าง
เลยทำให้ผู้บริโภคเริ่มหันมาซื้อสินค้าความงามและเครื่องสำอางต่าง ๆ มากขึ้น จนทำให้ตลาดสินค้าความงาม มูลค่ากว่า 23,000 ล้านบาท มีการแข่งขันรุนแรง เพื่อแย่งชิงยอดขาย
แน่นอนว่า เมื่อ CMG ที่มีแบรนด์สินค้าความงามระดับโลกมากมายอยู่ในมือ ก็พร้อมที่จะเปิดเกมชิงยอดขาย เช่นกัน…
โดยได้เตรียมงบประมาณกว่า 400 ล้านบาท ในการเฟ้นหาแบรนด์ความงามใหม่ ๆ อย่างเช่นที่กล่าวไว้ข้างต้นคือ Hermès Beaute ที่เพิ่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์กลุ่มเมกอัปพรีเมียม และน้ำหอมในเมืองไทย พร้อมเปิดจุดขายใหม่อีก 2 สาขา 
แบรนด์ต่อมาที่ CMG ได้สิทธิจัดจำหน่ายคือ L:A BRUKET จากประเทศสวีเดน ที่มาตอบสนองเทรนด์ความสวยยุค Clean Beauty ที่กำลังมาแรง 
ด้วยจุดขายคือ การใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติที่คัดสรรมาอย่างดี และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จนได้รับการขนานนามว่าเป็น Premium Organic Skincare ที่ดีที่สุด 
โดยสินค้าความงามที่นำเข้ามาในประเทศไทยนั้นมีความหลากหลาย ตั้งแต่ปลายเส้นผมจนถึงปลายเท้า
ขณะที่แบรนด์สินค้าความงามอื่น ๆ ที่อยู่ในการดูแลของ CMG อยู่แล้ว ก็มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อสร้างความตื่นเต้นให้กับแบรนด์ตลอดเวลา 
เช่น KIKO Milano แบรนด์เครื่องสำอางอันดับ 1 จากประเทศอิตาลี ที่เป็นแบรนด์ที่มีแครักเตอร์โฉบเฉี่ยวและมีราคาเข้าถึงง่าย ได้ออกคอลเลกชันเมกอัปใหม่ล่าสุด ที่ชื่อว่า Beauty Roar 
The Body Shop แบรนด์ความงามจากประเทศอังกฤษ ที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี โดยในปีนี้ครบรอบ 30 ปี ที่ทาง The Body Shop อยู่คู่กับคนไทย 
และเพื่อเป็นการ Celebrate ทาง CMG จึงได้นำผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ขายดี อย่าง THREE Balancing Cleansing Oil N ที่ช่วยทำความสะอาดและคงความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
และเมื่อรวมกับแบรนด์สินค้าความงามระดับโลก ที่มีอยู่ในมือของ CMG ในการบริหาร เช่น
- CLARINS แบรนด์สกินแคร์พรีเมี่ยมอันดับ 1 ในประเทศฝรั่งเศส Item ระดับ Must Have ของสาว ๆ ในไทย ที่มีจุดขาย นอกจากเรื่องบำรุงผิวให้สวยงามแล้ว ก็ยังเป็นแบรนด์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมของโลก
- THREE จากประเทศญี่ปุ่น ที่ดูแลสุขภาพผิว จิตใจ และร่างกาย แบบองค์รวม
- BANILA CO จากประเทศเกาหลีใต้ ที่มี Hot Item อย่าง Clean It Zero คลีนซิง บาล์ม ที่สร้างสถิติด้วยยอดขาย 1 ชิ้น ในทุก 3.1 วินาที จากทั่วโลก
จะเห็นว่า CMG มีแบรนด์สินค้าความงามอยู่ในการบริหารที่หลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันออกไป 
พูดง่าย ๆ ก็คือ CMG สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย 
ขณะเดียวกัน CMG ก็มองเกมตลาดขาด เมื่อเข้าใจ Insight ความต้องการของผู้บริโภค ที่มองหานวัตกรรมความงามใหม่ ๆ ตลอดเวลา จึงเป็นเหตุผลให้ในทุก ๆ ปี เราจะเห็นแบรนด์ใหม่ ๆ และสินค้าใหม่ ๆ เข้ามาเติมเต็มในพอร์ตโฟลิโอ อย่างต่อเนื่อง
เมื่อบวกกับการทำตลาดอย่างเข้มข้นผ่านรูปแบบ Omnichannel ที่ CMG ได้ปูพรมขยายช่องทางการขาย ทั้งอีคอมเมิร์ซ โซเชียลมีเดีย ที่สามารถเชื่อมต่อกับหน้าร้านและออนไลน์ได้อย่างไร้รอยต่อ
การวางแผนเกมรุกที่สมบูรณ์แบบในภาวะอุตสาหกรรมความงามอยู่ในช่วงเติบโต กับเป้าหมายยอดขายเติบโต 20% ในกลุ่มสินค้าความงาม จึงเป็นเป้าหมายที่ CMG น่าจะทำสำเร็จได้ไม่ยาก...
Reference 
-ข่าวประชาสัมพันธ์ บริษัท เซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้งกรุ๊ป จำกัด
Tag:CMG
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.