รู้จัก Ichiran ต้นตำรับราเม็งข้อสอบ จากญี่ปุ่น ที่เตรียมมาเปิด Pop-Up ในไทย เร็ว ๆ นี้
30 ต.ค. 2023
ถ้าพูดถึงราเม็งชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น หรือใครที่ไปญี่ปุ่น ก็ไม่พลาดที่จะต้องไปต่อแถว จนบางครั้งรอคิวยาวนานกว่า 1 ชั่วโมง
คงหนีไม่พ้น “ราเม็งข้อสอบ” หรือเชนราเม็งที่มีชื่อจริง ๆ ว่า “Ichiran”
และล่าสุด ร้านต้นตำรับราเม็งข้อสอบ ที่ว่านี้ ก็กำลังมาเยือนประเทศไทยแล้ว
เพราะ Ichiran ประกาศว่าจะเปิด Ichiran Ramen Pop-Up หรือพ็อปอัปสตอร์ในไทย ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 3 โซนนิปปอน มาร์เก็ต ช่วงวันที่ 11-26 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้
เรียกว่า ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ก็ได้รับความสนใจจากคนไทยไม่น้อย
จนหลายคนถึงกับเข้าไปคอมเมนต์ขอให้ Ichiran มาเปิดในไทยอย่างถาวร
แล้ว Ichiran เชนราเม็งชื่อดัง มีดีอะไร ถึงทำให้ใคร ๆ ก็อยากทาน ?
MarketThink จะพามาทำความรู้จักแบรนด์นี้ และถอดกลยุทธ์ของแบรนด์ไปด้วยกัน..
Ichiran เป็นเชนราเม็งจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ปี 1960 หรือ 63 ปีก่อน
เดิมใช้ชื่อว่า “Futaba Ramen” โดยเป็นร้านราเม็งเล็ก ๆ ที่อยู่ข้างทางในเมืองฮากาตะ (Hakata) เมืองต้นตำรับทงคัตสึราเม็ง ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฟูกูโอกะ ก่อนที่จะเปลี่ยนมาใช้ชื่อ Ichiran ในปี 1966
หลังจาก Ichiran เสิร์ฟความอร่อยในร้านเล็ก ๆ มาได้เกือบ 30 ปี
ในปี 1993 คุณมานาบุ โยชิโทมิ (Manabu Yoshitomi) เจ้าของร้านตัดสินใจปรับปรุงร้านที่มาพร้อมคอนเซปต์ใหม่ เพื่อเป็นต้นแบบในการขยายสาขาไปยังเมืองอื่น ๆ ในอนาคต
คอนเซปต์ใหม่ที่ว่านี้ แบ่งออกเป็น 5 ออริจินัล ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้ Ichiran มีชื่อเสียง สร้างความแตกต่างจากราเม็งแบรนด์อื่น ๆ และทำให้ใคร ๆ ก็เรียกว่า “ราเม็งข้อสอบ”
แล้ว 5 ออริจินัลของ Ichiran มีอะไรบ้าง ?
1. น้ำซุปกระดูกหมูแท้ 100%
ต้องบอกว่า Ichiran แตกต่างจากร้านราเม็งอื่น ๆ ตรงที่เน้นขายแค่ทงคัตสึราเม็ง หรือราเม็งน้ำซุปกระดูกหมู เพียงอย่างเดียว
เนื่องจากต้องการทุ่มเทพัฒนารสชาติในสิ่งที่ถนัดออกมาให้มีคุณภาพมากที่สุด
โดยน้ำซุปกระดูกหมูของ Ichiran ต้มมาจากกระดูกหมูแท้ ๆ เพื่อให้น้ำซุปมีกลิ่นหอมแบบธรรมชาติ
ที่สำคัญ Ichiran จะไม่ใช้วัตถุดิบที่มีส่วนผสมของไขมันทรานส์ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ และคอเลสเตอรอลสูง
อีกทั้ง Ichiran ยังเพิ่มคอลลาเจนเข้าไปในน้ำซุป ซึ่งมีสรรพคุณในการช่วยบำรุงรักษากระดูกอีกด้วย
และเพื่อไม่ให้สูตรของน้ำซุปทงคัตสึ ซึ่งเป็นหัวใจหลักของราเม็งรั่วไหลออกไป
จึงมีเพียงแค่ 4 คนบนโลกเท่านั้น.. ที่รู้สูตรลับในการทำน้ำซุปทงคัตสึของ Ichiran
2. ซอสเผ็ดสีแดง ที่เป็นสูตรลับเฉพาะ
ซอสเผ็ดสีแดงที่เป็นสูตรลับเฉพาะ ที่พบได้ในราเม็งของ Ichiran เท่านั้น
โดยซอสเผ็ดที่ว่านี้ เกิดจากส่วนผสมกว่า 30 ชนิดที่นำมาบ่มทิ้งไว้ เมื่อนำไปใส่ในราเม็ง จะช่วยเติมเต็มรสชาติให้เผ็ด เข้มข้น และอร่อยกลมกล่อมมากขึ้น
3. การออกแบบร้านให้เหมาะสำหรับการนั่งทาน “คนเดียว”
จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ Ichiran แตกต่างจากร้านราเม็งอื่น ๆ คือ การออกแบบร้านให้มีลักษณะเป็นคอกกั้น เหมาะสำหรับการนั่งทานคนเดียว
ซึ่งสาเหตุที่ Ichiran ออกแบบร้านให้เป็นลักษณะเช่นนี้ เพราะ Ichiran ต้องการให้ลูกค้าสามารถดื่มด่ำกับราเม็งตรงหน้าให้มากที่สุด โดยไม่มีบรรยากาศความวุ่นวายของร้านมารบกวน
อีกทั้งคุณมานาบุ โยชิโทมิ ยังมองเห็น Pain Point จากการเห็นกลุ่มลูกค้าผู้หญิงที่เข้ามาทานราเม็งในร้าน มักจะมีความรู้สึกไม่สบายใจ เมื่อต้องทานราเม็งข้างลูกค้าคนอื่น ๆ เพราะกังวลว่าจะถูกจ้องมองเวลาสูดเส้น จึงต้องใช้มือปิดป้องปากเสมอ ๆ
ด้วยเหตุนี้ คุณมานาบุ โยชิโทมิ จึงตั้งใจออกแบบและพัฒนา หาทางทำให้ลูกค้าสามารถเข้ามาทานราเม็งได้อย่างสบายใจ เลยออกมาเป็นคอกกั้นที่เหมาะสำหรับการนั่งทานคนเดียว
ซึ่งหน้าตาของคอกกั้น ที่ทำให้ลูกค้านั่งทานคนเดียวนี้ มีลักษณะคล้ายกับลูกค้ากำลังนั่งทำข้อสอบ
จึงเป็นที่มาของการที่หลายคนเรียก Ichiran ว่า ราเม็งข้อสอบ นั่นเอง..
4. รูปแบบการสั่งอาหาร
นอกจากที่นั่ง ที่ออกแบบจนหลายคนเรียกว่า ราเม็งข้อสอบแล้ว
อีกหนึ่งกิมมิกที่ทำให้ Ichiran เป็นราเม็งข้อสอบมากขึ้นไปอีก คือ ขั้นตอนการออร์เดอร์ราเม็ง
โดยเมื่อเข้าไปนั่งในที่นั่งส่วนตัวแล้ว Ichiran จะมีกระดาษคล้ายกับกระดาษข้อสอบ สำหรับให้ลูกค้าวงกลมเพื่อ Customize ราเม็งของตัวเองว่า อยากได้ราเม็งแบบไหน ไม่ว่าจะเป็น ระดับความเผ็ด ระดับความนุ่มของเส้น ใส่กระเทียมหรือผักต่าง ๆ หรือไม่
และหลังจากที่สั่งแล้ว เส้นราเม็งที่พ่อครัวลวกเสร็จ จะถูกนำลงชามภายใน 30 วินาที
และหลังจากเติมน้ำซุปลงในชามแล้ว ราเม็งจะถูกเสิร์ฟให้ลูกค้าภายในระยะเวลา 15 วินาที หรือเป็นกฎที่มีชื่อว่า “15 Second Standard”
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้มั่นใจว่า ราเม็งที่จะถูกเสิร์ฟให้กับลูกค้า สดใหม่ อร่อย และคุณภาพเทียบเท่ากันทุกชาม
5. ระบบ Kae-Dama
ปิดท้ายด้วยระบบคาเอะดามะ (Kae-Dama) หนึ่งในเอกลักษณ์ของราเม็งสไตล์ฮากาตะ
อธิบายง่าย ๆ คาเอะดามะ คือ การสั่งเส้นราเม็งเพิ่ม เพื่อมาทานกับน้ำซุปราเม็งเดิมที่เหลืออยู่ ในกรณีที่ยังไม่อิ่ม
โดยคุณมานาบุ โยชิโทมิ ออกแบบระบบคาเอะดามะ ให้สามารถสั่งเส้นได้ง่าย ๆ
เพียงแค่นำถาดที่วางอยู่บนโต๊ะ มาวางไว้บนโต๊ะในกรอบที่กำหนด เพียงเท่านี้พนักงานก็จะรับรู้ได้ทันทีว่า ขอเส้นเพิ่ม โดยที่ลูกค้าไม่ต้องส่งเสียงเรียกพนักงานให้เสียเวลา
อีกหนึ่งกิมมิกที่น่าสนใจ และมีในบางสาขาของ Ichiran คือ จะมีแผ่นป้ายต่าง ๆ แขวนอยู่ที่ข้างโต๊ะ
ซึ่งแผ่นป้ายที่ว่า ก็มีทั้งบอกว่า ร้านเสียงดังเกินไป, สั่งอาหารไม่เป็น ต้องทำอย่างไร
เมื่อนำแผ่นป้ายที่แขวนอยู่มาวางไว้ พนักงานก็จะรู้ทันทีว่าลูกค้าต้องการความช่วยเหลือด้านใด
มาถึงตรงนี้ คงเห็นแล้วว่าทำไม Ichiran ถึงเป็นร้านราเม็งที่หลาย ๆ คนอยากลอง
ถ้าให้สรุปสั้น ๆ กลยุทธ์ที่สำคัญของ Ichiran คือ การสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้ลูกค้า หรือที่เรียกว่า “Experiential Marketing”
ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบให้ลูกค้าทานได้อย่างสบายใจ ให้ความรู้สึกคล้ายกับกำลังทำข้อสอบ
มีระบบต่าง ๆ ที่ถูกคิดมาอย่างดี โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่ออำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ
ประกอบกับราเม็งที่มีรสชาติดี พิถีพิถันในการทำ
จึงทำให้ Ichiran เป็นหนึ่งในเชนราเม็งที่ลูกค้าหลายคนจดจำ และติดใจ
ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้รายได้ของ Ichiran นั้นไม่ธรรมดาเลย
ปี 2019 รายได้ 6,940 ล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 4,480 ล้านบาท
ปี 2021 รายได้ 4,630 ล้านบาท
ปี 2022 รายได้ 5,640 ล้านบาท
แม้ในช่วงที่มีโรคระบาด ยอดขายจะหายไปบ้าง เนื่องจากนักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นได้ แต่ในปีต่อ ๆ มา รายได้ก็เริ่มฟื้นตัวขึ้นแล้ว
ในขณะที่ด้านจำนวนสาขา ปัจจุบัน Ichiran มีด้วยกัน 86 สาขา ส่วนใหญ่เป็นสาขาในญี่ปุ่น
รวมถึงยังมีสาขาในสหรัฐอเมริกา, ฮ่องกง และไต้หวัน
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า Ichiran กำลังจะมาเปิด Pop-Up ในไทย ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนนี้
ก่อนหน้านี้ Ichiran ยังเคยเปิด Pop-Up ในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น มาเลเซีย, อินโดนีเซีย และสิงคโปร์
ซึ่งการเปิด Pop-Up ก็นับเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่น่าสนใจ
เพราะทาง Ichiran จะได้ทดลองตลาดว่าได้รับผลตอบรับดี หรือลูกค้าชื่นชอบมากขนาดไหน
ไม่แน่ว่า หาก Ichiran ที่จะมาเปิด Pop-Up ในไทย แล้วเสียงตอบรับดี
Ichiran ก็อาจตัดสินใจมาเปิดสาขาในไทยแบบถาวร ก็ได้..
---------------------------
อ้างอิง: