ยูนิลีเวอร์ จับมือ TikTok เดินหน้าแคมเปญ #งานบ้านที่รัก สานต่อความสำเร็จของการพลิกโฉมงานบ้านเป็นเรื่องง่ายและสนุกสนาน พร้อมชวนคนไทยมีรายได้เสริมผ่าน TikTok Shop
21 ธ.ค. 2023
ยูนิลีเวอร์ องค์กรชั้นนำที่ให้ความสำคัญกับการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอย่างยั่งยืน ผนึกพลัง TikTok เดินหน้าแคมเปญ #งานบ้านที่รัก (#CleanTok) โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน เพื่อสานต่อความสำเร็จในการพลิกโฉมการทำงานบ้านให้กลายเป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน ง่ายดาย และเป็นช่วงเวลาที่มีความหมายดี ๆ ยิ่งกว่าที่เคย
ผ่านวิดีโอคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันซึ่งสร้างสรรค์โดยคอมมูนิตี้ของผู้บริโภคบนโซเชียลมีเดีย โดยยูนิลีเวอร์ยกระดับความเข้มข้นของแคมเปญกับเฟสที่สองด้วยกิจกรรมพิเศษมากมาย พร้อมเชิญชวนคนไทยร่วมเป็นพันธมิตรตัวแทนจำหน่ายในช่องทางออนไลน์ (Affiliate) สร้างรายได้เสริมผ่าน TikTok Shop
นางสาววรพักตร์ บรรเลงจิต รองประธานกรรมการบริหารการตลาดผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ในประเทศไทย กล่าวว่า
"ยูนิลีเวอร์ ในฐานะองค์กรที่ดำเนินธุรกิจอย่างมีเป้าหมายภายใต้วิสัยทัศน์การเป็นผู้นำระดับโลกในธุรกิจที่ยั่งยืนโดยมีผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง ต้องการสร้างนิยามใหม่ให้กับการทำงานบ้าน ด้วยความมุ่งหวังที่จะเปลี่ยนงานบ้านเป็นประสบการณ์ที่ดียิ่งกว่าให้กับทุกคนผ่านแคมเปญ #งานบ้านที่รัก หรือ #CleanTok
ซึ่งเป็นครั้งแรกของยูนิลีเวอร์ที่ได้ผนึกความร่วมมือกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ครองใจคนรุ่นใหม่ทั่วโลกอย่าง TikTok ในการขับเคลื่อนให้เกิดการสร้างสรรค์คอนเทนต์งานบ้านในรูปแบบที่สนุกสนาน เข้าใจง่าย ได้ความรู้ และเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวัน รวมทั้งสร้างคอมมูนิตี้การแชร์ประสบการณ์และเคล็ดลับการทำความสะอาดบ้าน
ทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถมีรายได้เสริมจากการเป็น Affiliate หรือพันธมิตรตัวแทนจำหน่ายสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนจากยูนิลีเวอร์บน TikTok Shop โดยไม่จำเป็นต้องสต็อกสินค้าหรือมีหน้าร้าน ส่งผลให้เฟสแรกของแคมเปญได้ผลตอบรับที่ดีเกินความคาดหมาย
โดยล่าสุดยูนิลีเวอร์มีจำนวน Affiliate แล้วมากกว่า 34,000 คน นำมาสู่การดำเนินแคมเปญเฟสที่สอง ซึ่งสะท้อนความสำเร็จของยูนิลีเวอร์ในการสรรสร้างนวัตกรรมรวมถึงกำหนดเทรนด์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
โดยยูนิลีเวอร์จะยังคงเดินหน้านำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการ ตลอดจนประสบการณ์ที่ตอบสนองต่อความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอของผู้บริโภคทุกกลุ่ม ควบคู่ไปกับการสร้างเสริมโลกที่ยั่งยืนสำหรับทุกคนต่อไป”
แคมเปญ #งานบ้านที่รัก หรือ #CleanTok คือพื้นที่แห่งพลังบวกที่ส่งเสริมและจุดประกายความคิดสร้างสรรค์อย่างไร้ขีดจำกัด โดยเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งาน TikTok สามารถแบ่งปันความหลงใหล เคล็ดลับ และเรื่องราวดี ๆ ของการทำงานบ้านจนเกิดเป็นคอมมูนิตี้ขนาดใหญ่บนโลกออนไลน์ของคนที่รักการทำงานบ้าน การันตีความสำเร็จของเฟสแรกด้วยจำนวนวิดีโอคอนเทนต์มากกว่า 58,000 คลิป ยอดการรับชมรวมกว่า 923 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 549% และยอดการมีปฏิสัมพันธ์ (Engagement) มากกว่า 23 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 219%
สำหรับแคมเปญ #งานบ้านที่รัก หรือ #CleanTok เฟสที่สอง ยูนิลีเวอร์ได้เตรียมกิจกรรมและความตื่นเต้นมากมายมาส่งมอบให้กับผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็น การมอบรางวัล #CleanTokAwards ให้กับผู้ที่สร้างสรรค์คอนเทนต์ได้ดีที่สุดในด้านต่างๆ ได้แก่
1) สุดยอดครีเอเตอร์ #CleanTok
2) สุดยอดคนรักงานบ้านสายเทคนิค
และ 3) สุดยอดคนรักงานบ้าน ASMR
ร่วมด้วยมินิซีรีส์บน TikTok ที่จะถ่ายทอดเรื่องราวการทำงานบ้านที่ผสานมุกตลกและบริบทความน่ารักของสังคมไทยผ่านตัวละครที่สร้างจากสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนของยูนิลีเวอร์ที่ทุกครัวเรือนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี โดยเตรียมเปิดตัวให้ได้รับชมในเร็วๆ นี้
นอกจากนั้น ยูนิลีเวอร์ยังผนึกพลังอินฟลูเอนเซอร์เพื่อเชิญชวนผู้บริโภคที่สนใจมาร่วมเป็นพันธมิตรตัวแทนจำหน่ายในช่องทางออนไลน์ (Affiliate) สร้างรายได้เสริมได้อย่างอิสระผ่าน TikTok Shop โดยไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านจริงหรือสำรองสินค้าไว้กับตัว
และปิดท้ายด้วยภารกิจสุดพิเศษสำหรับร้านค้าโมเดิร์นเทรด เพียงไลฟ์สดจำหน่ายสินค้าดาวรุ่งจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนให้มีความน่าสนใจพร้อมปักตะกร้าตามเงื่อนไขที่กำหนดรับทันทีสินค้าสัมนาคุณจากยูนิลีเวอร์สำหรับนำไปจำหน่ายเพิ่มยอดขายได้อีกหลายต่อ
ก่อนหน้านี้ ยูนิลีเวอร์ ประสบความสำเร็จจากการจัดตั้งคอมมูนิตี้ผ่านไลน์แอคเคานต์ (LINE Account) “แม่บ้านมือโปร” ช่องทางใหม่ในการสื่อสารกับกลุ่มแม่บ้านทั่วไทย ตามมาด้วยเฟสแรกของแคมเปญ #งานบ้านที่รัก
ซึ่งเป็นชื่ออย่างเป็นทางการในประเทศไทยของแคมเปญ #CleanTok ที่เปิดตัวและเปลี่ยนการทำงานบ้านแบบเดิม ๆ เป็นสีสันและความเพลิดเพลินของชีวิตให้กับผู้บริโภคในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น สหราชอาณาจักร โตเกเลา ฝรั่งเศส บราซิล เนเธอร์แลนด์ อาร์เจนตินา อินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์