สรุปสูตร 7E ทำคอนเทนต์ที่ใช่ ถูกใจลูกค้า ให้แบรนด์อยู่รอด ในอีก 5 ปี จาก Ad Addict ในงาน CTC 2025

สรุปสูตร 7E ทำคอนเทนต์ที่ใช่ ถูกใจลูกค้า ให้แบรนด์อยู่รอด ในอีก 5 ปี จาก Ad Addict ในงาน CTC 2025

4 ก.ค. 2025
วันนี้ในงาน Creative Talk Conference 2025 มีเซสชันที่น่าสนใจ เกี่ยวกับเทรนด์ของวงการสื่อโฆษณาและแบรนด์ในอีก 5 ปีข้างหน้า หรือปี 2030 ว่าจะเปลี่ยนไปอย่างไร ? และต้องปรับตัวอะไรบ้าง ? ของ คุณพงษ์ปิติ ผาสุขยืด จาก AD ADDICT
แล้วเทรนด์ของสื่อโฆษณาในปี 2030 จะเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง ?
MarketThink สรุปแต่ละประเด็นเอาไว้ให้แล้ว
- สื่อโฆษณาแบบดั้งเดิม (Traditional Ads) จะยังคงอยู่เหมือนเดิม
ในปี 2030 สื่อโฆษณาดั้งเดิมอย่าง โทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ จะยังคงอยู่ และมีประชากรส่วนหนึ่งยังคงเสพสื่อเหล่านี้อยู่เช่นเดิม
- มนุษย์จะยังมองหาอะไรเดิม ๆ แต่จะซับซ้อนและเข้าใจยากมากขึ้น
เช่น ของดีมีคุณภาพ, ราคาถูกจับต้องได้, ใช้งานง่าย, จัดส่งเร็ว, น่าเชื่อถือ, บริการดี, มีประโยชน์, แก้ปัญหาได้ คุณสมบัติเหล่านี้เป็นสิ่งที่มนุษย์ยังคงมองหา และจะยังเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกนาน
แต่สิ่งที่มนุษย์ต้องการเพิ่มจะละเอียดและซับซ้อนมากขึ้น เช่น ความเชื่อ, มุมมอง, เหตุผล และทัศนคติที่แบรนด์มีต่อสังคมและสิ่งรอบตัว
- เมื่อโลกเต็มไปด้วย AI ความเป็นมนุษย์จะกลับมามีคุณค่า
เป็นธรรมดาที่มนุษย์จะหวนคิดถึงสิ่งที่ตัวเองขาดหรือไม่ได้ประสบพบเจอมานาน โดยเฉพาะในตอนนี้ที่อะไร ๆ ก็ดูรวดเร็วง่ายดายไปหมด ทำให้สิ่งที่ดูธรรมดา ๆ ในวันนี้ อาจจะมีคุณค่าในวันหน้าก็ได้
ตัวอย่างเช่น ตอนนี้คนเริ่มกลับมาคิดถึงแผ่นเสียงและกล้องฟิล์ม ที่ให้ความรู้สึกคลาสสิกและคิดถึงโมเมนต์แบบเก่า ๆ กันมากขึ้น
- โฆษณาจะเน้นที่ผลลัพธ์ แต่ความสร้างสรรค์ยังเป็นหัวใจสำคัญ
ความท้าทายในตอนนี้ของโลกโฆษณาก็คือ มีเครื่องมือและเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยงานให้ง่ายขึ้นและผลลัพธ์ดีขึ้นอยู่มากมาย แต่ความสร้างสรรค์ก็ยังเป็นคีย์สำคัญในการมัดใจคนดูอยู่เช่นเดิม
แล้วในอนาคตแบรนด์ต้องรับมืออย่างไร กับสื่อโฆษณาที่มีการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ?
คุณพงษ์ปิติ ได้แนะนำทริก “7E” เพื่อเป็นแนวทางสำหรับการสร้างสื่อโฆษณาของแบรนด์ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโฆษณาในอนาคต ได้แก่
1. Entertain สื่อที่แบรนด์สร้าง ต้องมีความสนุก ให้คนอยากดู อยากแชร์เนื้อหาต่อ
แบรนด์ต้องเปลี่ยนมุมมอง ให้เหมือนครีเอเตอร์มากขึ้น ไม่จำเป็นต้องเน้นการขายสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่ต้องสร้างความสนุก หรือจุดที่ทำให้ผู้ชมอยากดูต่อ อยากติดตามอยู่เรื่อย ๆ
2. Emotion แบรนด์ต้องสร้างความรู้สึก ให้คนดูรู้สึกผูกพัน
อธิบายให้เห็นภาพก็คือ ไม่นำเสนอการขายตรง ๆ แต่เลือกที่จะทำให้เนื้อหาของโฆษณา มีโทนและอารมณ์ของเรื่องราวมาประกอบด้วย
โดยอาจนำเรื่องราวที่ตรงใจ หรือเรื่องราวที่สอดคล้องกับชีวิตประจำวันของผู้คนมาประกอบในเนื้อหาโฆษณา ซึ่งจะช่วยสร้างการจดจำให้กับผู้ชมได้มากขึ้น
3. Edge แบรนด์ต้องมีจุดยืนที่โดดเด่น แตกต่าง และสามารถจดจำได้ง่าย
แบรนด์ต้องทำให้ตัวเองดูโดดเด่นขึ้นมาท่ามกลางแบรนด์คู่แข่งอื่น ๆ ต้องเป็น “แกะดำ” ท่ามกลางแกะสีขาวธรรมดา ๆ หรือถ้ามีใครเป็นแกะดำอยู่แล้ว ก็ต้องทำให้ตัวเองเป็นแกะน้ำเงิน แกะแดง แกะเหลืองให้ได้
ยกตัวอย่างเช่น
- แบรนด์ “ฉันจะกินขาเย็นทุกวัน” ใช้การตั้งชื่อให้ดูแปลก เพื่อให้คนเกิดความสนใจ
- “Liquid Death” ที่ดิไซน์สินค้ากระป๋องบรรจุน้ำเปล่าธรรมดา ๆ ให้คล้ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้ดูแตกต่างและเท่ในสายตาวัยรุ่นได้
4. Exclusivity ต้องทำให้ลูกค้ารู้ว่า “เรานี่แหละ คือคนพิเศษ”
การมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าในทุกวันนี้ ต้องใช้เนื้อหา น้ำเสียง วิธีการพูดให้แตกต่างกันไปตามลูกค้าแต่ละคนหรือลูกค้าคนเดียวกัน แต่คนละแพลตฟอร์ม แบรนด์ก็ต้องปรับให้เข้ากับธรรมชาติของแพลตฟอร์มนั้นด้วย
ซึ่งจะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า ตัวเองเป็นคนพิเศษ และแบรนด์ให้ความสำคัญกับเราจริง ๆ ซึ่งจะทำให้ลูกค้ารู้สึกผูกพันกับแบรนด์มากขึ้นได้
5. Ethics แบรนด์ต้องมีความโปร่งใส และรับผิดชอบต่อสังคม
ทุกวันนี้เทรนด์เรื่องการรักษ์โลก เป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกแบรนด์จำเป็นต้องมี
พูดง่าย ๆ ก็คือ ประกาศให้ลูกค้ารู้ไปเลยว่า แบรนด์ประสบความสำเร็จในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน Sustainable Development Goals (SDGs) ข้อไหนบ้าง
6. Emergence แบรนด์ต้องกล้าลองทำสิ่งใหม่ ที่แบรนด์อื่น ๆ ไม่กล้าทำ
ยกตัวอย่างเช่น จากเดิมที่มีการทำคอนเทนต์เพื่อให้ขึ้นในหน้า SEO (Search Engine Optimization) หรือก็คือ เมื่อค้นหาต้องขึ้นชื่อเว็บไซต์ของแบรนด์เป็นอันดับต้น ๆ ของผลลัพธ์การค้นหา
แต่ในปัจจุบันมี AEO (Answer Engine Optimization)
อธิบายง่าย ๆ คือ การเขียนเนื้อหาให้ตอบโจทย์กับความต้องการได้อย่างเหมาะสม เช่น การค้นหาด้วย Gemini หรือ ChatGPT
หากเว็บไซต์สามารถตอบโจทย์ได้อย่างเหมาะสม และสมบูรณ์ ผู้เข้าชมก็จะสามารถเข้าถึงเว็บไซต์แบรนด์ได้ง่ายขึ้น โดยที่ไม่จำเป็นต้องค้นหา หรือเลือกแล้ว เลือกอีก เพื่อที่จะเข้าถึงเว็บไซต์ของแบรนด์ให้ได้
7. Empathy เข้าใจลูกค้า ให้ลึกมากกว่าข้อมูลที่มี
สิ่งที่มนุษย์ต้องการสิ่งหนึ่งก็คือ การมีผู้อื่นเข้าอกเข้าใจตัวเอง
ดังนั้น แบรนด์จะต้องทำความเข้าใจลูกค้าผ่านข้อมูล และสื่อสารออกไปว่า แบรนด์เข้าใจในลูกค้า
สรุปง่าย ๆ ก็คือ แบรนด์ต้องนำเสนอเนื้อหาโฆษณาที่เข้าใจความต้องการ และแก้ปัญหาของผู้ชมได้อย่างตรงจุด จนทำให้ผู้ชมรู้สึกว่า “แบรนด์นี้เหมือนตัวเรา”
© 2025 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.