
สรุปความน่าสนใจของฟีเชอร์ “Grid Trading” ตั้งช่วงราคา ซื้อ-ขาย สินทรัพย์ดิจิทัล อัตโนมัติ แบบไม่ต้องเฝ้าจอ ครั้งแรกในไทย จาก Maxbit
11 ก.ค. 2025
จะดีกว่าไหม.. ถ้าไม่ต้องเฝ้าหน้าจอทุกครั้งที่ซื้อ-ขายสินทรัพย์ดิจิทัล อย่างคริปโทเคอร์เรนซี และโทเคนดิจิทัล ?
เพราะตอนนี้แอปพลิเคชัน Maxbit ได้เปิดตัวฟีเชอร์ใหม่ “Grid Trading” หรือก็คือระบบที่ช่วยส่งคำสั่งซื้อ-ขาย แบบอัตโนมัติตามช่วงราคาที่กำหนด
เรียกได้ว่าไม่ต้องนั่งจับจังหวะตลาด ไม่ต้องเฝ้ากราฟให้ปวดตากันอีกต่อไป..
สำหรับ Maxbit เป็นแพลตฟอร์มซื้อ-ขายสินทรัพย์ดิจิทัล ที่ให้บริการโดย บริษัท แมกซ์บิท ดิจิทัล แอสเซท จำกัด อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้เลยว่าเงินทุกบาท ทุกสตางค์ที่อยู่ในแพลตฟอร์ม สามารถลงทุนได้อย่างปลอดภัย
และอีกประเด็นน่าสนใจเกี่ยวกับการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ในช่วงที่ผ่านมา
ก็คือ มีมติ ครม. “ยกเว้นภาษีเงินได้จากกำไรสินทรัพย์ดิจิทัล 5 ปีเต็ม” ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ถึง 31 ธันวาคม 2572
ก็คือ มีมติ ครม. “ยกเว้นภาษีเงินได้จากกำไรสินทรัพย์ดิจิทัล 5 ปีเต็ม” ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ถึง 31 ธันวาคม 2572
แล้วฟีเชอร์ “Grid Trading” มีความน่าสนใจอย่างไร ? เข้ามาช่วยตอบโจทย์การลงทุนในมุมไหนได้บ้าง ? MarketThink สรุปความน่าสนใจมาให้เป็นข้อ ๆ
- ฟีเชอร์ “Grid Trading” คืออะไร ?
Grid Trade คือ บริการส่งคำสั่งซื้อ-ขายแบบกำหนดช่วงราคาอัตโนมัติ (Grid Trading)
โดยผู้ใช้งานสามารถตั้ง “ช่วงราคา” แบ่งเป็นระดับราคาสูงสุด และต่ำสุด ซึ่งช่วงราคานี้จะถูกแบ่งออกเป็นช่วงราคาย่อย ตามจำนวน Grid ที่ผู้ใช้กำหนด และ Grid จะส่งคำสั่งซื้อ-ขายภายใต้กลยุทธ์นี้
เมื่อราคาตลาดลดลงถึงระดับที่กำหนดไว้ ระบบจะทำการส่งคำสั่งซื้อโดยอัตโนมัติ
ในทางกลับกัน เมื่อราคาตลาดเพิ่มขึ้นถึงระดับที่กำหนด ระบบจะส่งคำสั่งขายโดยอัตโนมัติ
ในทางกลับกัน เมื่อราคาตลาดเพิ่มขึ้นถึงระดับที่กำหนด ระบบจะส่งคำสั่งขายโดยอัตโนมัติ
หรือพูดสั้น ๆ ก็คือ ฟีเชอร์นี้ก็คือฟีเชอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งาน “ซื้อถูกขายแพงได้แบบไม่ต้องเฝ้าจอ”
- วิธีใช้งานฟีเชอร์ Grid Trading ในแอปพลิเคชัน Maxbit ง่าย ๆ ใน 5 ขั้นตอน
ก่อนที่จะเริ่มใช้งานฟีเชอร์ Grid Trading จำเป็นต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Maxbit ลงในสมาร์ตโฟนก่อน
เมื่อดาวน์โหลดสำเร็จ และสมัครใช้งานเรียบร้อย ก็เริ่มขั้นตอนใช้งานฟีเชอร์ Grid Trading ได้เลย
เมื่อดาวน์โหลดสำเร็จ และสมัครใช้งานเรียบร้อย ก็เริ่มขั้นตอนใช้งานฟีเชอร์ Grid Trading ได้เลย
1. เลือกเหรียญที่ต้องการลงทุน : ตัวอย่างเช่น BTC, ETH, BCH, XRP
2. ตั้งงบประมาณที่ต้องการ : สมมติว่าตั้งงบประมาณ 1,500,000 บาท
3. ตั้งค่าช่วงราคาสูงสุด และต่ำสุด : สมมติว่าเลือก BTC ในช่วงราคา 2,500,000 ถึง 3,500,000 บาท
4. ตั้งค่าจำนวนช่อง Grid : สมมติว่ากำหนด Grid ไว้ 100 ช่อง
วิธีการคำนวณช่อง Grid คือ นำราคาสูงสุด - ราคาต่ำสุด และหารด้วยจำนวน Grid
จากตัวอย่างที่สมมติ จะได้ว่า นำช่วงราคามาลบกัน คือ 3,500,000 - 2,500,000 เท่ากับ 1,000,000 บาท
หลังจากนั้น นำช่วงราคา 1,000,000 บาทที่ได้ มาหารกับจำนวน Grid คือ 100 ช่อง
จะเท่ากับ ช่วงต่างของราคาระหว่างช่อง คือ 10,000 บาท
เพราะฉะนั้นงบประมาณในแต่ละ Grid จะเท่ากับช่องละ 15,000 บาท และถูกกำหนดเป็น 100 ช่วง
ซึ่งฟีเชอร์ Grid Trading จะจัดสรรเงินทุนในการซื้อ-ขาย ในแต่ละช่วงให้เท่ากัน จนใช้งบประมาณครบ 1,500,000 บาท
ซึ่งฟีเชอร์ Grid Trading จะจัดสรรเงินทุนในการซื้อ-ขาย ในแต่ละช่วงให้เท่ากัน จนใช้งบประมาณครบ 1,500,000 บาท
ที่น่าสนใจคือ เมื่อใส่จำนวน Grid เสร็จ โปรแกรมจะคำนวณกําไรต่อช่องโดยประมาณให้ด้วย
อย่างไรก็ตาม กำไรที่แสดงเป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น ซึ่งผลลัพธ์จริงอาจเปลี่ยนแปลงไปตามภาวะตลาด
อย่างไรก็ตาม กำไรที่แสดงเป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น ซึ่งผลลัพธ์จริงอาจเปลี่ยนแปลงไปตามภาวะตลาด
5. ตรวจทาน และส่งการสร้างคำสั่งซื้อ โดยฟีเชอร์ Grid Trading จะเริ่มทำงานหลังส่งคำสั่งซื้อสำเร็จ
ในระหว่างที่ใช้งานฟีเชอร์ Grid Trading หากเราเปลี่ยนใจหรืออยากยกเลิกคำสั่งซื้อ เราสามารถกดไอคอนหยุดชั่วคราว เพื่อหยุดการสร้างคำสั่งซื้ออัตโนมัติ และสามารถกดไอคอนถังขยะ เพื่อลบกลยุทธ์นั้นออกจากระบบ
สำหรับฟีเชอร์ Grid Trading นี้ ผู้ใช้งานสามารถสร้างกลยุทธ์ กำหนดรูปแบบการซื้อ-ขาย Grid ได้ทั้งหมด 5 กลยุทธ์
ยกตัวอย่างเช่น
กำหนดเงินสำหรับซื้อ-ขาย BTC 500,000 บาท
กำหนดเงินสำหรับซื้อ-ขาย ADA 300,000 บาท
กำหนดเงินสำหรับซื้อ-ขาย BTC 500,000 บาท
กำหนดเงินสำหรับซื้อ-ขาย ADA 300,000 บาท
นอกจากนี้ยังสามารถตั้งงบประมาณเดียว และกระจายหลายกลยุทธ์ได้อีกด้วย เช่น
สมมติงบประมาณ 500,000 และ ทำการตั้งกลยุทธุ์ BTC/THB ไปแล้ว 1 กลยุทธ์ และกลยุทธุ์นั้นได้ทำการซื้อไปแล้ว 1 ไม้ เหลือ 450,000 บาท
กลยุทธ์ที่ 2 เราสามารถตั้ง ADA/THB ได้ที่งบประมาณคงเหลือตามจริงใน fiat wallet คือ 450,000 บาท ได้เช่นกัน
ซึ่งเงินทั้งหมดนี้ ก็จะทำงานอยู่ตลอด ภายใต้กลยุทธ์ที่กำหนดไว้ใน Grid รูปแบบต่าง ๆ เรียกได้ว่าเงินทุกบาทสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพจริง ๆ
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ ก็จะพอเห็นภาพรวมได้ว่าฟีเชอร์ Grid Trading ที่เพิ่งเปิดให้บริการนี้ เข้ามาช่วยทำให้การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถทำได้ง่ายขึ้น ไม่จำเป็นต้องเฝ้าหน้าจอ หรือเฝ้ากราฟ
รวมถึงไม่ต้องกังวลเรื่องความเสี่ยง และผลตอบแทน เพราะฟีเชอร์นี้ จะประเมินผลตอบแทนให้อยู่ในกรอบที่ผู้ใช้งานสามารถเลือกกำหนดได้เอง
นอกจากนี้ Maxbit ยังมีฟีเชอร์ DCA หรือก็คือ บริการการออมสินทรัพย์ดิจิทัลอัตโนมัติอีกด้วย
โดยตอนนี้ Maxbit มีสินทรัพย์ดิจิทัลที่เปิดให้บริการทั้งหมด 22 สินทรัพย์ และสามารถจับคู่สินทรัพย์ได้ทั้งหมด 38 Trading Pairs โดยสามารถเลือกชำระสินทรัพย์ดิจิทัลเป็น USDT หรือ THB ได้
หมายเหตุ : สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
Ref : ข้อมูลบริษัท Maxbit