Facebook ปรับอัลกอริทึมใหม่ ลดการมองเห็น “Unoriginal Content” ที่ก๊อบปี้มาจากคนอื่น

ล่าสุด Facebook เพิ่งประกาศจะอัปเดตอัลกอริทึมใหม่ โดยในครั้งนี้จะโฟกัสไปที่การลดการมองเห็น “Unoriginal Content” หรือคอนเทนต์ที่ไม่ได้มาจากต้นฉบับโดยตรง

เพื่อให้ครีเอเตอร์ที่สร้างสรรค์ผลงานเองมีแรงจูงใจทำคอนเทนต์มากขึ้น รวมถึงทำให้ Original Content ได้รับการมองเห็นเพิ่มมากขึ้นด้วย

แล้ว Unoriginal Content ที่เข้าข่ายถูกลดการมองเห็น คือคอนเทนต์รูปแบบไหนบ้าง ?

Unoriginal Content คือ คอนเทนต์ที่นำคอนเทนต์ของคนอื่นมาใช้ซ้ำหรือดัดแปลงทำซ้ำ โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่ได้ให้เครดิตครีเอเตอร์ต้นทาง

โดย Facebook บอกว่า ชอบครีเอเตอร์ที่ใส่ความคิดเห็นหรือสร้างสรรค์สิ่งอื่น ๆ ลงไปในวิดีโอรีแอกชัน หรือทำวิดีโอที่กำลังเป็นเทรนด์ฮิตในขณะนั้นด้วยตัวเองอย่างสร้างสรรค์

แต่คอนเทนต์ที่เหมือนกับคอนเทนต์ของครีเอเตอร์คนอื่นแบบคำต่อคำ แบบเฟรมต่อเฟรม จะถูกลงโทษ

โดยบัญชีที่นำวิดีโอ รูปภาพ หรือข้อความของครีเอเตอร์คนอื่นไปใช้ซ้ำอย่างไม่เหมาะสม จะไม่สามารถสร้างรายได้ผ่านโปรแกรมสร้างรายได้ของแพลตฟอร์ม Facebook ได้ และถูกลดการมองเห็นลงอีกด้วย

นอกจากนี้ Facebook กำลังหาวิธีระบุแหล่งที่มาของวิดีโอที่ทำซ้ำด้วย เช่น ตอนนี้มีการทดสอบระบบเพิ่ม
ลิงก์ในวิดีโอซ้ำ

โดยระบบนี้ จะมีข้อความและลิงก์อยู่ที่ใต้แคปชันของวิดีโอละเมิดการทำซ้ำว่า “Original by ..” โดยมีวัตถุประสงค์ให้ผู้ชมกดและไปที่ Original Content แทนนั่นเอง

แล้วจากประกาศของ Facebook ฉบับนี้ ครีเอเตอร์ แบรนด์ หรือเจ้าของเพจ ต้องปรับตัวอย่างไรบ้าง ?

- เน้นไปที่ Original Content

เพจหรือผู้ใช้เฟซบุ๊กจะต้องโพสต์คอนเทนต์ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยตัวเอง หลีกเลี่ยงการนำคอนเทนต์ของคนอื่นมาโพสต์ลงในพื้นที่ของตัวเอง จึงจะได้รับการมองเห็นสูงสุด

- ดัดแปลงคอนเทนต์อย่างสร้างสรรค์และเหมาะสม

Facebook อนุญาตให้นำคอนเทนต์ที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ที่มาจากแหล่งอื่นมาใช้ได้ ตราบที่มีการดัดแปลงอย่างเหมาะสม

เช่น มีการตัดต่อ พากย์เสียง ใส่คำอธิบายประกอบเพิ่มเติม หรือทำอะไรก็ได้ที่สร้างสรรค์

แต่ถ้านำคลิปจากแหล่งอื่นมารวมต่อ ๆ กัน หรือแค่ใส่ลายน้ำของตัวเองเข้าไป จะถือว่าไม่ใช่ Original Content

- เล่าเรื่องราวที่มอบคุณค่าให้ผู้ชม

แม้ว่า Facebook จะอนุญาตให้ลงวิดีโอความยาวเท่าไรก็ได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงคลิปวิดีโอสั้น ๆ ที่ไม่ได้มีการเล่าเรื่องใด ๆ และให้คุณค่ากับผู้ชมน้อย

- หลีกเลี่ยงการโพสต์คอนเทนต์ ที่ลายน้ำไม่ใช่ของตัวเอง

หลีกเลี่ยงการโพสต์คอนเทนต์ที่มองเห็นลายน้ำของบุคคลที่สามอย่างชัดเจน รวมถึงคอนเทนต์ที่นำกลับมาใช้ใหม่จากแอปพลิเคชันหรือแหล่งอื่นที่มองเห็นลายน้ำได้ชัดเจน

- ใช้แคปชันที่มีคุณภาพ

Facebook แนะนำว่า แคปชันและ Hashtag จะต้องเกี่ยวข้องกับคอนเทนต์, แคปชันจะต้องไม่มีลิงก์ใด ๆ อยู่, ต้องใช้ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ให้น้อยสำหรับแคปชันภาษาอังกฤษ และใช้ Hashtag (#) ไม่ควรมีเกิน 5 อัน

โดยการอัปเดตอัลกอริทึมในครั้งนี้ จะมีดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไปในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ เพื่อให้ครีเอเตอร์ทุกคนได้มีเวลาปรับตัวในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ของตัวเอง

สำหรับใครที่สงสัยว่า ทำไมคอนเทนต์ของเราถึงถูกลดการมองเห็น Facebook

ก็แนะนำให้เข้าไปดูอินไซต์ในเมนู Professional Dashboard ซึ่งจะแนะนำสาเหตุและวิธีการปรับปรุงคอนเทนต์ของเราให้ดีขึ้น

และสามารถเข้าไปดูได้ว่า บัญชีมีความเสี่ยงหรือกำลังถูกลงโทษในการสร้างรายได้หรือไม่ ได้ที่หน้าเมนู Support ด้วย