กรณีศึกษา GrabFood โปรโมตแคมเปญแบบไหนให้โลกจำว่า “ถูกกว่าชัวร์*”

กรณีศึกษา GrabFood โปรโมตแคมเปญแบบไหนให้โลกจำว่า “ถูกกว่าชัวร์*”

23 พ.ย. 2025
ไม่นานมานี้ หลาย ๆ คนน่าจะเคยเห็นปรากฏการณ์ที่ ดารา/คนดัง รวมไปถึงพาร์ตเนอร์ร้านค้าชั้นนำ อย่าง Bar B Q Plaza, Burger King, KFC และอีกมากมาย 
ออกมาตอกย้ำเรื่องความถูกของ GrabFood พร้อมสร้าง Engagement ในโลกออนไลน์แบบมหาศาล ด้วยการทำ “ท่าปากจู๋” ลงโซเชียลจนกลายเป็นไวรัลปากจู๋ทั่วโซเชียลกันมาแล้ว 
รู้ไหมว่าเบื้องหลังของปรากฏการณ์ครั้งนั้นมาจากการโปรโมตของ Grab ที่ต้องการสื่อสารให้รู้ว่า Grab คือเบอร์หนึ่งเรื่อง “ความถูก” ไม่ว่าจะสั่งอาหารหรือเดินทาง ตอบรับพฤติกรรม Value-Driven ของผู้บริโภคยุคใหม่
และสาเหตุที่ต้องเป็นท่าปากจู๋ เพราะถ้าจะพูดคำว่า “ถูกกกกกกก” แน่นอนว่าหลาย ๆ คนต้องทำ “ปากจู๋” พร้อมกับลากเสียงยาวววววกัน 
จากกิมมิกเล็ก ๆ ตรงนี้ได้กลายเป็นจุดเด่นของแคมเปญใหม่อย่าง “GrabFood Mega Sale ถูกกว่าชัวร์* ที่มีทั้งโปรโมชันเด็ด ๆ รวมถึงวิธีการโปรโมตที่ไม่ธรรมดาออกมาอีกครั้ง
ที่น่าสนใจคือ ล่าสุดทางฝั่ง GrabFood เพิ่งส่งแคมเปญใหญ่อย่าง “GrabFood Mega Sale ถูกกว่าชัวร์*” ที่มีทั้งโปรโมชันเด็ด ๆ รวมถึงวิธีการโปรโมตที่ไม่ธรรมดาออกมาอีกครั้ง
โดยรอบนี้ GrabFood เล่นใหญ่ปล่อย ดีล 11 บาทสุดช็อก จากร้านดังมากมายรับเทศกาล 11.11 เฉพาะที่ GrabFood พร้อมขึ้นสื่อใหญ่บนยอดตึกใบหยก 
แล้วแคมเปญนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง ? ทำไม GrabFood ต้องเล่นใหญ่ขนาดนี้ MarketThink สรุปให้ฟัง 
GrabFood มองเห็นและใส่ใจใน Pain Points ต่าง ๆ ของลูกค้าที่สั่งอาหารดิลิเวอรี่ในยุคที่ค่าครองชีพสูงขึ้น 
และเพื่อให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่าจากทุกออร์เดอร์ที่สั่ง จึงเป็นสาเหตุของการเปิดตัวโค้ดลดแรง และการมอบดีลลดแรงต่าง ๆ มากมาย
สำหรับรายละเอียดของแคมเปญดังกล่าวจะประกอบด้วยดีลพิเศษต่างๆมากมาย และโค้ดส่วนลดเพิ่ม ได้แก่
1. Hot Deals มีดีลเด็ดราคาถูก ครอบคลุมตั้งแต่เชนร้านอาหารบริการด่วน (QSR), ร้านฮิตติดเทรนด์ ไปจนถึงร้านสตรีตฟูดให้ลูกค้าสามารถเข้ามาเลือกซื้อได้
2. “โค้ดลดแรง” มีโค้ดส่วนลดให้ลูกค้าเลือกใช้สูงสุดถึง 100 บาท** ที่สำคัญคือมองหาง่าย ไม่ยุ่งยาก แค่คลิกเดียวก็ใช้ส่วนลดได้เลย
3. และยังสามารถใช้โค้ดส่วนลดพร้อม ๆ กันได้อีก โดยการกรอกโค้ด MEGA ลดเพิ่มสูงสุด 100 บาท** 
4. พร้อมทั้ง ส่งฟรี* 0 บาท เพียงเลือกสั่งแบบ “ส่งถูก Saver” 
ด้วยส่วนลดและดีลพิเศษการันตีความคุ้มค่าที่ “ถูกกว่าชัวร์*” ตลอดแคมเปญขนาดนี้ 
แน่นอนว่าวิธีการสื่อสารแคมเปญนี้ออกไป ก็ต้องไม่ธรรมดาเหมือนกัน เพราะ GrabFood 
เลือกใช้ 2 กลยุทธ์การตลาดมาโปรโมตแคมเปญนี้ 
1. Bombard Marketing 
Bombard Marketing กลยุทธ์การตลาดแบบ “ปูพรม” อธิบายง่าย ๆ คือ การโฆษณาพร้อมกันหลายช่องทางให้มากที่สุด ไม่ต่างจากการถล่มโฆษณาใส่ผู้คนแบบไม่เลือกหน้า
โดยมีจุดประสงค์คือสร้างการรับรู้และทำให้ลูกค้าจดจำแคมเปญให้ได้มากที่สุดในระยะเวลาสั้น ๆ 
งานนี้ GrabFood ได้ทุ่มสุดตัวอัดสื่อโฆษณา ผ่านช่องทาง OOH อย่าง Billboard และ Digital Screen ทั่วกรุงเทพฯ รวมไปถึงตามหัวเมืองใหญ่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น
- จอ 3D หน้าลานพาร์คพารากอน
- จอพาโนรามิกหน้าห้าง CentralWorld 
- Wrap ตึกระดับแลนด์มาร์ก เช่น ตึกสาธร ยูนีค, ตึก Avani Ratchada, ตึก Loxley, ตึกใบหยก และอีกมากมายให้ดึงดูดสายตาคนทั้งเมือง 
- ใช้สื่อ Local และวาง Giant Installation ตามหัวเมืองใหญ่ ๆ 
ด้วยจำนวนสื่อโฆษณาขนาดนี้ ทำให้ไม่ว่าจะเดินทางไปตรงไหนของกรุงเทพฯ คนก็จะเห็นการตอกย้ำเรื่อง “GrabFood ถูกกว่าชัวร์*” หรือสัญลักษณ์อื่น ๆ ที่ GrabFood เลือกใช้มาสื่อถึงความคุ้มค่า 
นอกจากจะเป็นการทำให้คนรู้ว่าตอนนี้ GrabFood กำลังมีแคมเปญใหญ่แล้ว ยังมีประโยชน์มาก ๆ สำหรับการสร้างภาพจำดี ๆ ให้กับแบรนด์ได้พร้อม ๆ กัน
2. Hijack Marketing 
คำว่า Hijack ในมุมการตลาดจะไม่ใช่การขโมยหน้าสื่ออะไรแบบนั้น แต่จะเป็นการ “ขโมยความสนใจจากลูกค้า” ด้วยวิธีการที่สร้างสรรค์ 
โดยวิธีที่ GrabFood ใช้ขโมยความสนใจจากลูกค้าก็คือ “โฆษณาผ่านถุงซอส” 
ด้วยความที่ GrabFood รู้อินไซต์ว่าคนไทย “ติดซอส” คือ จะกินไก่ทอด จะกินพิซซา หรือจะกินอะไรก็ตาม ก็ต้องจิ้ม ต้องมีซอสเสมอ 
พอรู้แบบนี้แล้ว GrabFood เลยเอาไอเดียตรงนี้ไปเปลี่ยนถุงซอสให้กลายเป็นสื่อโฆษณา ด้วยการจับมือ Pizza Hut มาสร้าง “New Media Hijack” บนถุงซอสของแบรนด์  
เมื่อลูกค้าสั่งอาหาร ลูกค้าจะได้ซอสที่มีโฆษณาของ GrabFood พร้อมโค้ดส่วนลดพิเศษให้สั่งมื้อถัดไปได้ด้วย เหมือนเป็นการตอกย้ำความคุ้มค่าที่ลูกค้าสามารถจับต้องได้จริง ๆ นั่นเอง
อ่านมาถึงตรงนี้หลาย ๆ คนน่าจะเห็นภาพแล้วว่า ทำไม GrabFood ถึงโปรโมตแคมเปญ “GrabFood Mega Sale ถูกกว่าชัวร์*” ตั้งแต่บน Billboard กลางกรุงเทพฯ ไปจนถึงบนถุงซอส ?
คำตอบคือ GrabFood ต้องการสื่อสารให้ “ความคุ้มค่ากลายเป็นภาพจำของแบรนด์” 
ซึ่งจะมีประโยชน์มาก ๆ กับภาพจำของแบรนด์ในระยะยาว เพราะเมื่อลูกค้า จะสั่งอาหารดิลิเวอรี่ แล้วอยากได้ตัวเลือกที่คุ้มค่าคุ้มราคา 
ก็จะต้องมีไม่น้อยแน่ ๆ ที่คิดถึงชื่อ GrabFood เป็นแบรนด์แรก ๆ จากแคมเปญนี้.. 
สุดท้ายนี้สำหรับคนที่อยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมของแคมเปญ GrabFood Mega Sale ถูกกว่าชัวร์* ก็สามารถกดเข้าไปดูได้ที่ https://www.grab.com/th/blog/gf-mega-sale-cheapersure/
*ค่าส่งถูกกว่าชัวร์เมื่อเลือกการจัดส่งแบบส่งถูก (Saver) โดยเปรียบเทียบกับค่าส่งสำหรับการจัดส่งแบบปกติบน GrabFood
*ค่าส่ง 0 บาท เมื่อเลือกการจัดส่งแบบส่งถูก (Saver) จากร้านค้าที่ร่วมรายการและมีระยะการจัดส่งไม่เกิน 3 กม.
**ส่วนลดและยอดคำสั่งซื้อขั้นต่ำอาจแตกต่างไปตามประเภทของร้านค้า I เฉพาะร้านค้าที่ร่วมรายการ I เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
_________________________________
#GrabFoodMegaSaleถูกกว่าชัวร์* #GrabFoodHotDealsลดแรงทุกวัน
#GrabFoodโค้ดลดแรง #GrabFoodTH #GrabFood #GrabTH #ทีมGrab
อ้างอิง : 
- ข่าวประชาสัมพันธ์ GrabFood 
© 2025 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.