กรณีศึกษา มูลค่าเศรษฐกิจของศาสนาในสหรัฐอเมริกา
6 มิ.ย. 2020
ศาสนานั้นเกิดขึ้นมานานกว่า 3,000 ปี
มีความเชื่อกันว่าศาสนานั้นเกิดขึ้นมาเพราะความกลัวของมนุษย์
ซึ่งถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริง
ความกลัวของมนุษย์เราก็ทำให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล
มีความเชื่อกันว่าศาสนานั้นเกิดขึ้นมาเพราะความกลัวของมนุษย์
ซึ่งถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริง
ความกลัวของมนุษย์เราก็ทำให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล
เราลองมาดูตัวอย่างของหนึ่งในประเทศมหาอำนาจของโลก
ในสหรัฐอเมริกา มูลค่าทางเศรษฐกิจของศาสนานั้นมีมูลค่าสูงถึง 37 ล้านล้านบาทต่อปี
ซึ่งมูลค่านี้ เทียบเท่ากับบริษัท Amazon ทั้งบริษัทเลยทีเดียว
ในสหรัฐอเมริกา มูลค่าทางเศรษฐกิจของศาสนานั้นมีมูลค่าสูงถึง 37 ล้านล้านบาทต่อปี
ซึ่งมูลค่านี้ เทียบเท่ากับบริษัท Amazon ทั้งบริษัทเลยทีเดียว
โดยมูลค่าทั้งหมดแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ
คือ สถาบัน การรวมกลุ่มทางศาสนา และธุรกิจที่เกี่ยวกับความเชื่อ
คือ สถาบัน การรวมกลุ่มทางศาสนา และธุรกิจที่เกี่ยวกับความเชื่อ
ส่วนแรกคือสถาบัน มีสัดส่วน 26% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 9.7 ล้านล้านบาท
ประกอบไปด้วย องค์กรการกุศล การบริการทางสาธารณสุข และสถาบันการศึกษาขนาดใหญ่
ประกอบไปด้วย องค์กรการกุศล การบริการทางสาธารณสุข และสถาบันการศึกษาขนาดใหญ่
โดยเฉลี่ย คนอเมริกัน 1 คน ในทุกๆ 6 คน มักจะใช้บริการของโรงพยาบาลคาทอลิก
ตัวอย่างเช่น Adventist Health เป็นหนึ่งในองค์กรทางศาสนาที่ดูแลเรื่องสุขภาพของผู้คน
โดยมีการให้บริการในกว่า 80 ชุมชนในฝั่งตะวันตกของประเทศ และมลรัฐฮาวาย
องค์กรนี้มีพนักงานกว่า 78,000 คน และมีโรงพยาบาลถึง 46 แห่ง
โดยมีการให้บริการในกว่า 80 ชุมชนในฝั่งตะวันตกของประเทศ และมลรัฐฮาวาย
องค์กรนี้มีพนักงานกว่า 78,000 คน และมีโรงพยาบาลถึง 46 แห่ง
มหาวิทยาลัยอันดับที่ 40 ของโลกอย่าง Brandeis University ในสหรัฐฯ
ก็เป็นหนึ่งในสถาบันการศึกษาที่เกิดจากศาสนายิว
ก็เป็นหนึ่งในสถาบันการศึกษาที่เกิดจากศาสนายิว
ส่วนที่สองคือ การรวมกลุ่มทางศาสนามีสัดส่วน 36% คิดเป็นมูลค่า 13.4 ล้านล้านบาท
โดยส่วนนี้เป็นเม็ดเงินที่เกิดขึ้นจาก โบสถ์ มัสยิด วัด
โดยส่วนนี้เป็นเม็ดเงินที่เกิดขึ้นจาก โบสถ์ มัสยิด วัด
โดยประกอบไปด้วยกิจกรรมที่กระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายต่างๆ
เช่น การแต่งงาน การเรียน หรือแม้แต่การท่องเที่ยว
เช่น การแต่งงาน การเรียน หรือแม้แต่การท่องเที่ยว
ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ จะทำให้เกิดการกระจายรายได้ในชุมชน
เช่น ค่าดอกไม้ ค่าระบบเครื่องเสียง ค่าซ่อมบำรุง และค่าสาธารณูปโภค
เช่น ค่าดอกไม้ ค่าระบบเครื่องเสียง ค่าซ่อมบำรุง และค่าสาธารณูปโภค
โรงเรียนเองก็ถือเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มนี้ด้วย
ในสหรัฐฯ มีครูที่เป็นพนักงานประจำของโรงเรียนศาสนากว่า 420,000 ตำแหน่ง
สอนนักเรียนกว่า 4.5 ล้านคนในแต่ละปี
ในสหรัฐฯ มีครูที่เป็นพนักงานประจำของโรงเรียนศาสนากว่า 420,000 ตำแหน่ง
สอนนักเรียนกว่า 4.5 ล้านคนในแต่ละปี
สิ่งเหล่านี้ แสดงให้เห็นว่าศาสนสถานในสหรัฐฯ ไม่ได้เป็นเพียงที่สักการะบูชาพระเจ้าเท่านั้น
แต่เป็นสถานที่ที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย
และยังทำให้เกิดการชุมนุมทางศาสนากันอย่างน้อย 344,000 คนต่อปี
แต่เป็นสถานที่ที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย
และยังทำให้เกิดการชุมนุมทางศาสนากันอย่างน้อย 344,000 คนต่อปี
ส่วนสุดท้ายคือ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อ ซึ่งมีสัดส่วนมากที่สุดอยู่ที่ 38%
คิดเป็นมูลค่า 14 ล้านล้านบาท
คิดเป็นมูลค่า 14 ล้านล้านบาท
หนึ่งในธุรกิจที่ได้รับความนิยมคือ ธุรกิจอาหาร
เพราะศาสนิกชนจำนวนมากต้องทานอาหารตามหลักของศาสนาอย่างเคร่งครัด
เช่น อาหารฮาลาล อาหารโคเชอร์ (อาหารที่ได้มาตรฐานตามกฎของยิว)
เพราะศาสนิกชนจำนวนมากต้องทานอาหารตามหลักของศาสนาอย่างเคร่งครัด
เช่น อาหารฮาลาล อาหารโคเชอร์ (อาหารที่ได้มาตรฐานตามกฎของยิว)
นอกจากนี้ ศาสนาก็ยังมีอิทธิพลกับธุรกิจสื่ออีกด้วย
สื่อโทรทัศน์อย่าง EWTN เป็นเครือข่ายโทรทัศน์ของคาทอลิก
ส่วน CBN เป็นเครือข่ายของโปรเตสแตนท์
สื่อโทรทัศน์อย่าง EWTN เป็นเครือข่ายโทรทัศน์ของคาทอลิก
ส่วน CBN เป็นเครือข่ายของโปรเตสแตนท์
ตัวอย่างธุรกิจอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น ธุรกิจขายดิน
บริษัท Holy Land Earth นำเข้าดินจากอิสราเอลเพื่อมาขายในสหรัฐอเมริกา
ซึ่งดินที่ขายนี้ก็ไม่ใช่ดินธรรมดาๆ
แต่เป็นดินศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวยิว
ที่นิยมนำมาใช้ในการฝังศพ ปลูกต้นไม้ หรือแม้แต่สร้างบ้าน
รวมถึงนำมาประกอบกิจกรรมต่างๆ ด้วยความเชื่อว่าจะทำให้พิธีมีความศักดิ์สิทธิ์มากยิ่งขึ้น
บริษัท Holy Land Earth นำเข้าดินจากอิสราเอลเพื่อมาขายในสหรัฐอเมริกา
ซึ่งดินที่ขายนี้ก็ไม่ใช่ดินธรรมดาๆ
แต่เป็นดินศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวยิว
ที่นิยมนำมาใช้ในการฝังศพ ปลูกต้นไม้ หรือแม้แต่สร้างบ้าน
รวมถึงนำมาประกอบกิจกรรมต่างๆ ด้วยความเชื่อว่าจะทำให้พิธีมีความศักดิ์สิทธิ์มากยิ่งขึ้น
ในตอนนี้เราอาจจะเห็นว่า หลายๆ ธุรกิจกำลังเผชิญกับวิกฤติทางเศรษฐกิจ
แต่หนึ่งในธุรกิจที่น่าจะดำเนินกิจการต่อไปได้
อาจจะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับศาสนา ก็เป็นได้..
อาจจะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับศาสนา ก็เป็นได้..
อ้างอิง :
-https://www.weforum.org/agenda/2017/01/religion-bigger-business-than-we-thought/
-https://www.weforum.org/agenda/2016/05/fastest-growing-major-religion
-https://www.theguardian.com/world/2016/sep/15/us-religion-worth-1-trillion-study-economy-apple-google
-https://en.wikipedia.org/wiki/Adventist_Health
-https://www.usnews.com/best-colleges/brandeis-university-2133
-https://www.forbes.com/lists/top-charities/#ea4db5d5f501
-https://www.dallasnews.com/news/faith/2007/06/05/holy-dirt/
-https://www.weforum.org/agenda/2017/01/religion-bigger-business-than-we-thought/
-https://www.weforum.org/agenda/2016/05/fastest-growing-major-religion
-https://www.theguardian.com/world/2016/sep/15/us-religion-worth-1-trillion-study-economy-apple-google
-https://en.wikipedia.org/wiki/Adventist_Health
-https://www.usnews.com/best-colleges/brandeis-university-2133
-https://www.forbes.com/lists/top-charities/#ea4db5d5f501
-https://www.dallasnews.com/news/faith/2007/06/05/holy-dirt/