Unilever จะลงทุนกว่า 34,000 ล้านบาท ในกองทุนด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

Unilever ประกาศในวันนี้ว่าบริษัทจะลงทุน 1,000 ล้านยูโร หรือประมาณ 34,900 ล้านบาท
ในกองทุนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (climate change fund)
ที่นำเงินไปลงทุนในโครงการต่างๆ ซึ่งเน้นแก้ไขปัญหาด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
เช่น การปลูกป่า, การอนุรักษ์น้ำ, การกักเก็บคาร์บอน หรือการกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

และบริษัทตั้งเป้าหมายว่า จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิ
ที่เกิดจากกระบวนการผลิตและสินค้าทั้งหมด ให้กลายเป็นศูนย์ ภายในปี ค.ศ. 2039

ตามเว็บไซต์ Unilever บริษัทมีปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ประมาณ 60 ล้านตันในปี 2019

ซึ่งต่อไปบริษัท จะให้ความสำคัญและร่วมมือกับซัพพลายเออร์
ที่มีเป้าหมายว่าจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นอันดับแรกๆ

และบริษัทจะออกแบบระบบที่ซัพพลายเออร์ ต้องรายงานคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint)
หรือปริมาณการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่เกิดจากตัวสินค้าและบริการ

ซึ่ง Unilever กล่าวว่าบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัทในปี 2039 จะแสดงข้อมูลคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์

Unilever ยังกล่าวเสริมอีกว่า บริษัทตั้งเป้าหมายในการทำให้ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดสามารถย่อยสลายทางชีวภาพได้
และต้องการให้ห่วงโซ่อุปทานของบริษัทปราศจากการตัดไม้ทำลายป่า ภายในปี 2023

โดยบริษัทจะใช้เทคโนโลยีดาวเทียมในการติดตามตรวจสอบเรื่องภูมิศาสตร์
และเทคโนโลยี Blockchain รวมกับเทคโนโลยีดิจิทัลอื่นๆ เพื่อเพิ่มความสามารถในการติดตามตรวจสอบ และความโปร่งใสในระบบซัพพลายเชน

อ้างอิง :
https://www.reuters.com/article/us-climatechange-unilever/unilever-to-invest-1-billion-euros-in-climate-change-fund-over-10-years-idUSKBN23L0Y6