EVEANDBOY ร้านเครื่องสำอางที่มียอดขาย 3,000 ล้าน

EVEANDBOY ร้านเครื่องสำอางที่มียอดขาย 3,000 ล้าน

12 ก.ย. 2020
EVEANDBOY ร้านเครื่องสำอางมัลติแบรนด์ โทนสีดำชมพูสะดุดตา
พื้นที่ร้านขนาดใหญ่ ที่รายล้อมไปด้วยผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางมากกว่า 1,000 แบรนด์ หรือเกือบ 100,000 SKU ซึ่งเป็นดั่งสรวงสวรรค์ของคุณผู้หญิง..
ถ้าถามผู้หญิงว่า ร้านเครื่องสำอางแบบมัลติแบรนด์ ร้านไหนโดนใจสาวๆ มากที่สุด
หรือถามผู้ชายว่า ร้านเครื่องสำอางไหน ที่ต้องยืนรอแฟนนานที่สุด
ก็คงไม่พ้น EVEANDBOY..
รู้หรือไม่ว่า กว่าจะครองใจผู้บริโภค และก้าวขึ้นมาเป็นแนวหน้าของวงการ
EVEANDBOY มีจุดเริ่มต้นมาจากร้านซูเปอร์มาร์เก็ตเล็กๆ ในจังหวัดมหาสารคาม
ย้อนรอยกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2548 มีทายาทของร้าน “สารคามซูเปอร์มาร์เก็ต”
คุณหิรัญ ตันมิตร หรือ คุณบอย ได้สังเกตเห็นว่า การแข่งขันในธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ร้านโชห่วย ค่อนข้างรุนแรง มีคู่แข่งจำนวนมาก
บวกกับการขายสินค้าประเภทนี้ ได้อัตรากำไรค่อนข้างต่ำ
ซึ่งหากดำเนินธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตของที่บ้านเหมือนเดิมต่อไป
ในระยะยาวจะต้องเจอความท้าทายอย่างหนัก
เขาจึงชักชวนพี่สาว ก็คือ คุณสุธาวัลย์ ตราชู หรือ คุณอีฟ
ให้หันมาจำหน่ายเครื่องสำอาง ซึ่งมีอัตรากำไรที่ดีกว่าแทน
โดยลองใช้พื้นที่ตึกแถวของที่บ้าน เปิดเป็นร้านเครื่องสำอางสาขาแรกขึ้นที่มหาสารคาม
ทั้งนี้ ร้านได้นำแนวคิดจากต่างประเทศมาใช้ ก็คือ รวมสินค้าหลายๆ แบรนด์ไว้ที่เดียวกัน
แต่ขายในราคาที่ถูกกว่าในห้างสรรพสินค้า
และนั่นก็กลายเป็นก้าวแรกของ EVEANDBOY
ซึ่งชื่อแบรนด์ ก็มาจากการรวมชื่อเล่นของ สองพี่น้อง อีฟ และ บอย นั่นเอง
หลังจากเปิดร้านได้ 4-5 เดือน คุณบอย ก็ได้เพื่อนที่รู้จักอย่าง คุณปริญญา วะนะศุข หรือคุณไปร์ท
มาร่วมเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจด้วยอีกคน โดยบทบาทแรกคือดูแลเรื่องแคชเชียร์, ระบบสมาชิก
ด้วยเทรนด์ของผู้หญิงยุคใหม่ ที่นิยมซื้อเครื่องสำอางจากร้านมัลติแบรนด์
เพราะลูกค้าสามารถเดินเลือกดูได้ตามความชอบ และซื้อสิ่งที่ต้องการได้ในที่เดียว
เลยทำให้ EVEANDBOY ได้รับความนิยมอย่างมาก จนต้องขยายสาขาเพิ่ม
ได้แก่ สาขาที่ 2 ในตัวเมืองขอนแก่น, สาขาที่ 3 แถวมหาวิทยาลัยขอนแก่น
และหมากเกมสำคัญ ที่ทำให้ EVEANDBOY โด่งดังเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
คือตอนปี พ.ศ. 2555 ที่ได้เข้ามาเปิดสาขาที่สยามสแควร์
ก่อนจะขยายสาขาไปทั่วกรุงเทพฯ ในเวลาต่อมา
และปัจจุบัน EVEANDBOY มีทั้งหมด 11 สาขา
บริษัท อีฟ แอนด์ บอย จำกัด
ปี 2560 มีรายได้ 1,636 ล้านบาท กำไร 157 ล้านบาท
ปี 2561 มีรายได้ 2,846 ล้านบาท กำไร 581 ล้านบาท
ปี 2562 มีรายได้ 3,180 ล้านบาท กำไร 712 ล้านบาท
รายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 39% และกำไรเติบโตเฉลี่ยปีละ 113%
โดยสัดส่วนรายได้สามารถแยกได้เป็น
เมกอัพ 48%, สกินแคร์ 35%, น้ำหอม 6%, แฮร์แคร์ 3%, แอ็กเซสซอรี 3%, เพอร์ซันนัลแคร์ 3% และอื่นๆ 2%
ที่น่าสนใจคือ EVEANDBOY มีเพียง 11 สาขา แต่สามารถสร้างยอดขายได้ถึง 3,180 ล้านบาท
เฉลี่ยแล้ว 1 สาขา ทำยอดขายได้ 24 ล้านบาท/เดือน เลยทีเดียว..
ถ้าถามว่ามากขนาดไหน ?
ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven มียอดขายเฉลี่ยต่อสาขาที่ 2.6 ล้านบาท/เดือน
ร้านขนมหวาน After You มียอดขายเฉลี่ยต่อสาขาที่ 2.5 ล้านบาท/เดือน
ร้านไก่ทอด Bonchon มียอดขายเฉลี่ยต่อสาขาที่ 3.5 ล้านบาท/เดือน
(หมายเหตุ เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นภาพมากขึ้น ไม่ได้ต้องการเปรียบเทียบคนละธุรกิจโดยตรง)
และถ้า EVEANDBOY เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น และมีอัตราส่วนมูลค่าบริษัทต่อกำไร (P/E)
พอๆ กับ After You ที่ 63 เท่า (ณ วันที่ 31/08/2563)
EVEANDBOY จะมีมูลค่าบริษัทถึง 44,900 ล้านบาท..
ในส่วนของเรื่องการตลาด
นอกจาก EVEANDBOY จะมีสินค้าวางขายจำนวนมากรวมกว่า 90,000-100,000 SKU
โดยแบ่งเป็นสินค้ากลุ่ม Mass 70% และกลุ่ม Premium 30%
สิ่งที่ดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาชอปปิงดินแดนความงามแห่งนี้
คือ ราคาที่จับต้องได้ เพราะสินค้าจะตั้งราคาให้ถูกกว่าในห้างฯ ประมาณ 30%
และมีการทำโปรโมชันแบบจัดเต็มในระหว่างปี เช่น เทศกาลลดราคาสินค้าลง 50 - 90%
จนสร้างปรากฏการณ์ ทำให้ลูกค้ายอมต่อคิวรอหลายชั่วโมง เพื่อซื้อและจ่ายเงิน..
นอกจากนี้ EVEANDBOY ยังมีช่องทางสื่อสารทางตลาดที่ทรงพลัง
โดยมีผู้ติดตามบน Facebook Page มากกว่า 2 ล้านคน
และบน Instagram มากกว่า 1.2 ล้านคน
ซึ่งด้วยฐานผู้ติดตามจำนวนมากนี้ จะทำให้การโปรโมตแคมเปญ, โปรโมชัน และสื่อสารกับลูกค้า ของ EVEANDBOY มีประสิทธิภาพ และได้ผลมากกว่าแบรนด์อื่นๆ
สำหรับแผนธุรกิจในปี 2563
EVEANDBOY ตั้งเป้าว่าจะลงทุนเพิ่ม 500 ล้านบาท เพื่อขยายอีก 3 สาขา
ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ สาขาที่ Siam Premium Outlets บนพื้นที่ 580 ตร.ม.
รวมไปถึงลงทุนพัฒนาในส่วนของช่องทางอีคอมเมิร์ซ ทั้งเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน
ถึงแม้สถานการณ์โควิด-19 จะสร้างผลกระทบอย่างหนักหน่วง ต่อธุรกิจที่เน้นขายผ่านหน้าร้าน
ซึ่งก็มีทั้งธุรกิจที่กลับมายืนได้เหมือนเดิม และธุรกิจที่ล้มแล้วลุกขึ้นยาก
แต่สำหรับ EVEANDBOY คงจัดเป็นธุรกิจประเภทแรก
เพราะไม่ว่าสถานการณ์ หรือ สภาวะทางเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร
ลูกค้าหลายๆ คน ก็คงอยากกลับไปเยือนสรวงสวรรค์ ที่ชื่อว่า “EVEANDBOY” อีกครั้งอยู่ดี..
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.