ทำไม การเปิดบริการครบ 77 จังหวัดทั่วประเทศไทยของ LINE MAN ถึงกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น

ทำไม การเปิดบริการครบ 77 จังหวัดทั่วประเทศไทยของ LINE MAN ถึงกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น

19 พ.ย. 2021
เชื่อหรือไม่ว่า LINE MAN ที่เริ่มต้นธุรกิจ Food Delivery เมื่อ 5 ปีที่แล้ว
ปัจจุบันมีบริการส่งอาหารครบทั้ง 77 จังหวัดทั่วไทย ครอบคลุมกว่า 222 อำเภอ
หรือคิดเป็น 1 ใน 4 ของอำเภอทั้งหมดในประเทศ
จนทำให้ LINE MAN มีพันธมิตรร้านอาหารกว่า 500,000 ร้าน
ขึ้นแท่นเป็น Food Delivery ที่มีจำนวนร้านอาหารมากที่สุด
ความสำเร็จตรงนี้ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายใน 1 ปีหลังจาก LINE MAN และ Wongnai
ควบรวมกิจการเพื่อผสานทรัพยากรและอีโคซิสเต็มให้เป็นเนื้อเดียวกัน
ทำให้ต่อยอดการขยายบริการไปสู่ตลาดได้รวดเร็วและเชื่อมต่อทุกภาคส่วน
ในธุรกิจอาหารได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ทีนี้แล้วใครบ้างที่อยู่ในอีโคซิสเต็มของ LINE MAN
ขอเริ่มต้นที่ “ร้านอาหาร” กันก่อน นับตั้งแต่แอป Food Delivery แจ้งเกิด
ต้องบอกว่าร้านอาหารก็มีรายได้ที่ไม่ได้จำกัดแค่การนั่งทานในร้าน
แต่ยังมีแอป Food Delivery เป็นตัวกลางสะพานเชื่อมต่อในการขายอาหารส่งตรงถึงบ้านลูกค้า
ยิ่งช่วงการระบาดโควิด 19 ที่ได้สร้างความลำบากให้แก่ธุรกิจร้านอาหาร
แอป Food Delivery กลายเป็นจิกซอว์ชิ้นสำคัญที่ช่วยต่อลมหายใจให้ธุรกิจร้านอาหาร
แน่นอนว่า ร้านอาหารในจังหวัดใหญ่ ๆ และตามหัวเมืองจะได้ประโยชน์จากเรื่องนี้เต็ม ๆ
เพราะแอป Food Delivery ทุกรายต่างมีบริการในพื้นที่เหล่านี้
ในขณะเดียวกัน LINE MAN ยังคงขยายบริการเจาะลึกลงไปในระดับอำเภออย่างต่อเนื่อง
เพราะนอกจากจะมีบริการ Food Delivery ในทำเลขายระดับ 5 ดาว
LINE MAN ก็ยังมีบริการในพื้นที่อำเภอเล็ก ๆ ที่ตัวเองมองว่ามีศักยภาพ
ทำให้ร้านอาหารที่มีทำเลรอง ๆ ลงมานั้นมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่าในอดีต
เพราะมีรายได้ 2 ทาง เข้ามาแบบสม่ำเสมอ
คือ กลุ่มลูกค้านั่งทานในร้านกับกลุ่มลูกค้า Food Delivery
ผลที่ตามมาก็คือ ยอดขายดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งก็อาจทำให้หลายร้านต้องจ้างลูกจ้างเพิ่มขึ้น
หรือบางร้านขายดีก็อาจขยายเปิดสาขาใหม่
จะเห็นว่าการขยายบริการ LINE MAN ที่ลงลึกไปถึงอำเภออื่น ๆ ที่ไม่ใช่ตัวเมือง ไม่ว่าจะเป็น อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย, อำเภอเบตง จังหวัดยะลา, อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี และอื่น ๆ อีกมากมาย
มีแนวโน้มที่จะเพิ่ม “อัตราการจ้างงาน” และยกระดับร้านอาหารท้องถิ่นในเมืองไทย
เรื่องที่น่าสนใจต่อมา ไม่ใช่แค่การจ้างงานในร้านอาหารที่เพิ่มมากขึ้น
เพราะ LINE MAN ต้องเพิ่มจำนวนไรเดอร์ หรือคนขับส่งอาหารเพิ่มขึ้นด้วย
ทำให้คนท้องถิ่นในอำเภอเล็ก ๆ มีงานทำ หรือบางคนอาจทำเป็นอาชีพเสริมหารายได้เพิ่มอีกทาง
และคนสุดท้ายที่ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ก็คือ “ผู้บริโภค” อย่างเรานั่นเอง
หลายคนอาจไม่รู้ว่า มีร้านอาหารจำนวนมาก ที่มีเมนูอร่อย ๆ สูตรต้นตำรับ
แฝงตัวอยู่ในทำเลอำเภอเล็ก ๆ
ซึ่งแต่ก่อนเราอาจไม่รู้จักว่ามีร้านอาหารนี้ หรือถ้ารู้จักก็อาจจะขี้เกียจเดินทางไปไกล
จนเมื่อ LINE MAN เลือกจะเพิ่มบริการ Delivery ลงไปในพื้นที่เหล่านี้
ทำให้ผู้บริโภคแค่อยู่บ้านก็สามารถรอทานเมนูอร่อย ๆ เหล่านี้ได้
ส่วนอำเภอใหญ่ ๆ ในต่างจังหวัด ร้านอาหารอาจจะอยู่ห่างจากที่พักอาศัย
LINE MAN ก็ช่วยอำนวยความสะดวกตรงนี้
ในมุมของนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวต่างจังหวัด ก็สามารถสั่งร้านอาหารดัง ๆ มาทานในที่พักอาศัยได้
และไม่ใช่แค่นั้น เมื่อ LINE MAN ขยายบริการเพิ่มมากขึ้น
ก็มักจะมีโปรโมชันเพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคใช้บริการอยู่เสมอ
ทำให้การสั่งอาหารแต่ละครั้งประหยัดเงินในกระเป๋า
อย่างล่าสุด LINE MAN ก็เป็นเจ้าแรกที่สามารถจ่ายผ่านโครงการคนละครึ่งครบ 77 จังหวัด
และมีร้านร่วมโครงการมากที่สุดถึง 52,000 ร้าน
โดยล่าสุดก็เพิ่งประกาศขยายเวลาส่งฟรี สำหรับออร์เดอร์คนละครึ่งในระยะ 5 กม.
ส่วนลูกค้าใหม่ที่สั่งคนละครึ่งผ่าน LINE MAN ครั้งแรกจ่ายแค่ 1 บาท
ไปจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564
หลายคนอาจคิดว่าการขยายพื้นที่บริการของ LINE MAN น่าจะใกล้ถึงจุดอิ่มตัว
แต่เรื่องนี้กลับตรงกันข้ามเมื่อล่าสุด LINE MAN ประกาศว่าในไตรมาสแรกของปี 2565
จะขยายพื้นที่ให้บริการเพิ่มอีก 50 อำเภอ โดยเน้นที่อำเภอที่มีศักยภาพ
ทั้งจำนวนประชากรและขนาดเศรษฐกิจระดับท้องถิ่น
พออ่านมาถึงตรงนี้ คงพอจะมองเห็นวิธีคิดของ LINE MAN
ที่ไม่ใช่แค่สร้างการเติบโตทางรายได้เพียงอย่างเดียว
แต่ยังกระตุ้นพฤติกรรมผู้บริโภคในประเทศให้คุ้นชินกับการใช้เทคโนโลยี
เพื่อความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน
มันคือวิธีคิดในการทำธุรกิจที่มีเทคโนโลยีขับเคลื่อนให้เกิดความยั่งยืนอย่างสมบูรณ์แบบ
ที่ LINE MAN ได้ต่อ จิกซอว์ ภาพนี้ได้สำเร็จไปแล้วหนึ่งขั้น..
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.