กรณีศึกษา SC จะเติบโตบนวิถีโลกใหม่ ทำรายได้แสนล้าน ใน 4 ปี ได้อย่างไร

กรณีศึกษา SC จะเติบโตบนวิถีโลกใหม่ ทำรายได้แสนล้าน ใน 4 ปี ได้อย่างไร

23 ก.พ. 2022
“SC จะสร้างรายได้เติบโตต่อเนื่อง 4 ปี (พ.ศ. 2565-2568) รวมกว่า 100,000 ล้านบาท”
นั่นคือเป้าหมายที่ คุณณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ประกาศไว้ชัดเจนในงาน​แถลงข่าว​ ที่มาในธีมสุดล้ำ Metaverse
แน่นอนว่า นอกจากตัวเลขที่ท้าทาย โจทย์ที่ใหญ่กว่าของ SC จากนี้ คือการนำทัพองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน บนวิถีโลกใหม่ที่ไม่มีอะไรเหมือนเดิม
คำถาม คือ SC จะทำอย่างไร เพื่อไปให้ถึงเส้นชัยที่วางไว้ ?
คุณณัฐพงศ์ บอกว่า SC อาศัยโรดแม็ป “SC Thriving for Good” ที่วางไว้ 3 ยุทธศาสตร์ด้วยกัน ดังนี้
1. Thriving เติบโต บนสมรภูมิเดิมและน่านน้ำใหม่
ต้องบอกว่า แผนการเติบโตของ SC มาเร็วกว่าที่คิดไว้ถึง 1 ปี
เพราะจากการปรับตัวอย่างรวดเร็ว ในช่วงปี 2020-2021 ทำให้ SC ไม่เพียงรอดพ้นวิกฤติโควิด 19 มาได้อย่างแข็งแกร่ง อีกทั้งยังมีสถานะการเงินที่แข็งแรง
ทำให้ SC พร้อมรับทั้งโอกาสและวิกฤติใหม่ กล้าวางเป้าหมายเติบโตต่อเนื่อง 4 ปี รายได้สะสมรวม 1 แสนล้านบาทได้อย่างมั่นใจ
โดย 2 เครื่องยนต์หลักที่จะเข้ามาเป็นพระเอกในการพา SC ไปสู่เป้าหมาย ได้แก่
- Engine 1 มาจากโครงการที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวสูง (80%)
โดยเฉพาะในปีนี้ SC มีแผนเปิดโครงการใหม่ สูงเป็นสถิติใหม่ 27 โครงการ มูลค่า 40,000 ล้านบาท
แบ่งเป็นแนวราบ 25 โครงการ มูลค่า 33,500 ล้านบาท ซึ่งมากกว่า 70% เป็นบ้านเดี่ยวราคามากกว่า 10 ล้านบาท
ส่วนคอนโดมิเนียมมีแผนเปิด 2 โครงการใหม่ มูลค่า 6,500 ล้านบาท บนทำเลรถไฟฟ้า BTS 2 สถานี คือ วงเวียนใหญ่และทองหล่อ
สำหรับเป้าหมายระยะยาว SC วางแผนว่า แนวราบจะสร้างรายได้ 20,000 ล้านบาท ในปี 2025 และขึ้นแท่นเป็นแบรนด์บ้านเดี่ยวอันดับ 1 ในใจผู้คน
ด้วยฐาน 2 แต้มต่อสำคัญ คือ ความพร้อมที่เข้าถึงทุกทำเลและราคา รวมไปถึงคุณภาพที่มาเป็นอันดับหนึ่ง
ส่วนแนวสูงจะเป็นแบรนด์คอนโดมิเนียมอันดับ 1 สำหรับคน Gen Y พร้อมกับเปิดแบรนด์ใหม่ โครงการใหม่รวม 20,000 ล้านบาท ในปี 2022-2025
- Engine 2 มาจากน่านน้ำใหม่ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ล้อไปกับเทรนด์ใหม่ของโลก (20%)
ไม่ว่าจะเป็น Work from Anywhere และ Home is Everything
เช่น ​ธุรกิจโรงแรม, แอปพลิเคชันรู้ใจ, การลงทุนอะพาร์ตเมนต์ในสหรัฐฯ และจะมีธุรกิจใหม่ในช่วงกลางปีนี้
2. Connecting เชื่อมต่อ ทุกสิ่งถึงกัน สร้างคุณค่าที่มากกว่า
ตอกย้ำการเป็นผู้นำ การส่งมอบ Living Solutions​ ด้วยนวัตกรรมที่เชื่อมต่อถึงสินค้าและบริการ ภายใต้วิธีคิดแบบลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Human-centric)
ทั้งนี้ คุณณัฐพงศ์ยังฉายภาพให้เห็นว่า SC จะมีการเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ที่หลากหลาย
พร้อมสร้างคุณค่าและเชื่อมต่อ Solutions สู่ผู้คนและสิ่งแวดล้อม สำหรับบ้านทุกหลังในโครงการเปิดใหม่
ตัวอย่างก็เช่น
- เพิ่มความอัจฉริยะให้บ้าน ด้วยเทคโนโลยีสั่งการด้วยเสียง ด้วยการทยอยติดตั้งลำโพงอัจฉริยะในบ้านหลังใหม่
- นวัตกรรม Active Airflow & Air Quality Control ที่ช่วยให้อากาศในบ้านสดชื่น
- มี Smoke Detector จับสัญญาณควันไฟได้
รวมไปถึงการพัฒนาแอปฯ รู้ใจ เวอร์ชัน 3.0, สถานี EV Charger, Solar Rooftop ฯลฯ
ขณะที่พนักงานกว่า 1,000 คน ของ SC ก็จะนำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อเพิ่มความคล่องตัว รวดเร็ว และแม่นยำในการทำงาน
นอกจากนี้ SC ยังเตรียมนำเสนอประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ลูกค้า​ ด้วยการเปิดตัว​ SC Morning Coin ในไตรมาส 4
คุณณัฐพงศ์ บอกว่า SC Morning Coin เป็น Utility Token ที่ไม่ได้นำไปซื้อของโดยตรง
แต่เหมือนเป็น Loyalty Point ที่สามารถนำ Blockchain Technology มาช่วยให้ลูกค้าสามารถนำไปใช้ เชื่อมต่อกับระบบนิเวศอื่นได้ง่ายขึ้น
“การที่เราทำ SC Morning Coin ไม่ได้ได้เปรียบในธุรกิจมากขึ้น แต่ถ้าเราไม่ทำ เราจะเสียเปรียบ หรือพูดง่าย ๆ ว่าเราอาจตกขบวน”
ส่วนเรื่องการเข้ามากำกับดูแลของภาครัฐฯ คุณณัฐพงศ์มองว่าเป็นเรื่องปกติ
เช่นเดียวกับการลงทุนใน Metaverse หากถามว่า SC จะลงทุนด้านนี้หรือไม่ คงตอบว่า SC จะดูจากพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยเป็นหลัก
ถ้าผู้อยู่อาศัยพร้อม SC ก็พร้อมไปด้วยเช่นกัน อาจจะไม่ใช่การลงทุน Metaverse โดยตรง
แต่มองว่าผู้อยู่อาศัยจะใช้ประโยชน์จาก Metaverse ได้อย่างไรมากกว่า
3. Sustaining ยั่งยืน สร้างคุณค่า สู่ผู้คนและสิ่งแวดล้อม
องค์กรที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนบนวิถีโลกใหม่ ต้องเข้าใจว่าทุกสิ่งบนโลกเชื่อมต่อถึงกัน
มีผลกระทบต่อกัน
บทเรียนจากโควิด 19 ทำให้เห็นว่า จากผู้ติดเชื้อ​ 1 คนจากประเทศหนึ่ง
ผ่านไป 2 ปีกว่า สามารถทำให้ยอดผู้ป่วยเพิ่มเป็น 400 ล้านคน และสามารถส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของทั้งโลก
ดังนั้น การจะพาองค์กรเติบโตในโลกยุคใหม่ ถ้ามองแต่กำไร นอกจากจะเป็นการมองแบบล้าสมัย ยังทำให้องค์กรเติบโตไปได้ไม่ไกลและไม่ยั่งยืน
เพราะในขณะที่เศรษฐกิจวิ่งช้าลง 3 ปี แต่นวัตกรรมบนโลกวิ่งเร็วขึ้น 10 ปี
องค์กรที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนในยุคนี้ จึงต้องสร้างคุณค่าสู่ผู้คนและโลก
เพราะคุณค่านี้จะเป็นผู้สร้างกำไร และกำไรจะกลับมาสร้างคุณค่าต่อไปอย่างยั่งยืน
ทั้งหมดนี้เลยเป็นเหตุผลว่า ทำไมนอกจาก SC จะให้ความสำคัญกับการสร้าง “แบรนด์” ให้น่าเชื่อถือ รักษามาตรฐานคุณภาพสูงสม่ำเสมอ
ยังมีเป้าหมายในการสร้างองค์กร ให้เป็นบริษัทที่น่าทำงานด้วยเป็นอันดับ 1 ภายใต้คอนเซปต์​ “สร้างสังคมดี สมดุลดี อนาคตดี”
ขณะเดียวกัน ยังใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดย SC ตั้งเป้าจะลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกลง 20% ภายในปี 2025
นั่นก็เป็นเพราะ SC เชื่อว่า ถ้าดำเนินธุรกิจภายใต้หลัก 3P ได้แก่ Profit, People และ Planet จะติดปีกให้องค์กรไปสู่เป้าหมายอย่างยั่งยืน..
ติดตาม Highlight  จาก งานแถลงแผนธุรกิจ SC Asset Business Direction 2022 “SC Thriving for Good” ได้ที่  https://m.scasset.com/7P_4
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.