กรณีศึกษา คุณฝุ่ง อมต Skincare Chemist ผู้ปั้นแบรนด์ AMT Skincare ด้วยความจริงใจ

แม้จะเพิ่งเปิดตัวในปี 2020 ซึ่งเป็นปีที่มีการแพร่ระบาดของโควิด 19
แต่ AMT Skincare กลับเป็นแบรนด์สกินแคร์ที่ลูกค้าให้ความเชื่อมั่น และไว้วางใจ
พิสูจน์ได้จากยอดขาย ที่เติบโตขึ้น 100% ภายใน 1 ปี

หลายคนอาจจะสงสัยว่า AMT Skincare ทำได้อย่างไร ?
กุญแจสำคัญของเรื่องนี้ มาจาก 3 ตัวแปรสำคัญ คือ
1. ความรู้อย่างลึกซึ้งในสิ่งที่ทำ
2. เน้นแก้ปัญหาผิวที่ต้นเหตุ
3. การบริการที่จริงใจต่อลูกค้า

.

Skincare Chemist คือใคร? ทำไมถึงทำสกินแคร์ได้ดี ?
คุณฝุ่งเล่าให้เราฟังว่า Skincare Chemist เปรียบเสมือน หัวหน้าพ่อครัวในร้านอาหารแบบ fine dining ที่ต้องรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับอาหารแต่ละชนิด ตั้งแต่วัตถุดิบ วิธีการปรุง ภาชนะที่ใส่ รูปแบบในการเสิร์ฟ ไปจนถึงลำดับที่เหมาะสมในการรับประทานอาหารแต่ละจาน

Skincare Chemist คือ นักเคมีที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในทุก ๆ ด้านที่เกี่ยวกับการทำสกินแคร์อย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่ชนิดของวัตถุดิบ สัดส่วนและปริมาณที่ผิวควรได้รับ และยังรู้ว่าสามารถไปหาวัตถุดิบที่ดีนั้น ๆ ได้จากไหน

นอกจากนี้ยังมีความรู้ในขั้นตอนการผลิต เครื่องมือที่ใช้ผลิต บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม
รวมถึงสามารถแนะนำลำดับการใช้สกินแคร์ให้เหมาะตามแต่ละบุคคลได้
ทำให้สกินแคร์เหล่านั้น สามารถออกฤทธิ์ต่อผิวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

เส้นทางการเป็น “Skincare Chemist อันดับต้น ๆ ของประเทศไทย” ของคุณฝุ่งนั้น
ผ่านการสั่งสมความเชี่ยวชาญในวงการสกินแคร์ทั้งในและนอกประเทศมามากกว่า 10 ปี

โดยหลังจากจบการศึกษาจากคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง
คุณฝุ่งได้รับทุนรัฐบาลญี่ปุ่น เพื่อไปศึกษาต่อระดับปริญญาโท สาขา Cosmetic Science โดยตรงที่ Tokyo University of Technology หลังจากเรียนจบ คุณฝุ่งได้สั่งสมประสบการณ์จากการทำงานเป็น Skincare Chemist ให้กับบริษัทเครื่องสำอาง Top3 ของญี่ปุ่น และยังเป็นคนไทยคนแรกและคนเดียวในปัจจุบันที่ได้รับรางวัล Young Scientist Award จาก IFSCC หรือ สมาคมนักวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางนานาชาติ อีกด้วย

.

ทำไมเราถึงต้องใช้สกินแคร์ที่แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ มากกว่าปลายเหตุ?
สิ่งที่หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้ แต่ด้วยประสบการณ์การเป็น Skincare Chemist ที่คลุกคลีอยู่ในวงการสกินแคร์มานาน
ทำให้คุณฝุ่งมองภาพออกว่า ปัญหาผิวคนไทยส่วนมากเกิดจาก #การมีพื้นฐานสภาพผิวที่อ่อนแอ ซึ่งเป็นต้นเหตุของปัญหาผิวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาผิวแห้งไป มันไป คันยุบยิบ เห่อแดง อุดตันเป็นสิวง่าย หรือปัญหาอื่น ๆ

คุณฝุ่งเล่าให้เราฟังว่า “การเลือกใช้สกินแคร์ที่แก้ปัญหาผิวที่ปลายเหตุ เช่น ผิวแห้งไปก็ทาสกินแคร์ที่เติมน้ำ ผิวมันไปก็ทาสกินแคร์ที่ไม่มีน้ำมัน ในตอนแรกอาจให้ผลที่ดีได้ แต่พอหยุดใช้ก็มักกลับมามีปัญหาเหล่านั้นอีก แต่ในทางกลับกัน การแก้ปัญหาผิวที่ต้นเหตุ โดยการ #บำรุงปรับพื้นฐานสภาพผิวให้แข็งแรง จะช่วยให้ปัญหาผิวต่าง ๆ เหล่านี้ดีขึ้นพร้อม ๆ กันทีเดียว อาจจะใช้เวลาสักหน่อย แต่ให้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนกว่า”

ใครจะคิดว่าจาก Pain Point นี้เอง กลายเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้คุณฝุ่ง ก่อตั้ง AMT Skincare ขึ้นมา
โดยมีแนวคิดผลิตภัณฑ์ที่เน้น “การบำรุงปรับพื้นฐานสภาพผิวให้แข็งแรง” ซึ่งจะทำให้ผิวสวยสุขภาพดีอย่างยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม การทำแบรนด์ ไม่ใช่แค่การทำผลิตภัณฑ์เพียงอย่างเดียว ยังต้องมีเรื่องการทำการตลาด
ซึ่งถือว่าเป็นโจทย์ที่ท้าทายไม่ใช่น้อย เพราะตลาดสกินแคร์บ้านเราแข่งขันกันสูงมาก

คุณฝุ่งทำไปได้สักระยะ ก็พบว่าการที่จะสื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจถึงผลิตภัณฑ์นั้นยากมาก ๆ
เพราะว่า “การบำรุงปรับพื้นฐานสภาพผิวให้แข็งแรง” นั้นยังไม่เป็นที่รู้จักนัก

.

การบริการที่จริงใจในรูปแบบของ AMT Skincare เป็นอย่างไร?
สิ่งที่ AMT Skincare ทำ คือ
เมื่อลูกค้าทักเข้ามา แอดมินจะช่วยเป็นที่ปรึกษาให้ว่า ปัญหาผิวที่ลูกค้าเป็นอยู่ จริง ๆ แล้ว ต้นเหตุคืออะไร
และถ้าพบว่า ปัญหานั้นเกิดจากการมีพื้นฐานสภาพผิวที่อ่อนแอ แอดมินก็จะค่อย ๆ อธิบายความสำคัญของ “การบำรุงปรับพื้นฐานสภาพผิวให้แข็งแรง” และแนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลให้ ด้วยความจริงใจ
แต่หากหลังจากพูดคุยกับลูกค้าแล้ว พบว่าปัญหาต้นเหตุของลูกค้า เป็นปัญหาอื่น ซึ่งผลิตภัณฑ์ของ AMT Skincare ณ ปัจจุบันยังไม่เหมาะสม ก็จะแนะนำวิธีอื่น ๆ โดยไม่ยัดเยียดขายของแต่อย่างใด

คุณฝุ่งให้ความสำคัญกับการสร้างทีมแอดมินอย่างมาก แอดมินทุก ๆ คนต้องผ่านการอบรมฝึกฝนอย่างเข้มข้น เพื่อพร้อมให้คำปรึกษากับลูกค้าด้วยความรู้ที่ถูกต้อง และที่สำคัญมากกว่านั้นคือมีความจริงใจต่อลูกค้า

.

สิ่งนี้เป็นเครื่องตอกย้ำว่า AMT Skincare ไม่ได้ขายแค่ความเป็น Skincare Chemist ของคุณฝุ่ง
แต่ผลิตภัณฑ์และบริการของ AMT Skincare นั้นดีจริง ๆ
ดูได้จาก ในปี 2021 ยอดขายโตขึ้น 100% ฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น 3-4 เท่า
นอกจานี้ อัตราการซื้อซ้ำยังสูงถึง 70% (ค่าเฉลี่ยการซื้อซ้ำของสินค้าสกินแคร์อยู่ที่ราว 20%)

เรียกได้ว่า AMT Skincare เป็นหนึ่งในสกินแคร์ของคนไทยที่มีแนวทางการสร้างธุรกิจที่น่าสนใจ
ซึ่งหากจะถอดบทเรียนจากประสบการณ์ที่ได้ลงมือทำจริงของ คุณฝุ่ง
สรุปเป็น 3 หัวใจสำคัญในการปั้นแบรนด์สกินแคร์ให้ประสบความสำเร็จ คือ
1. รู้ลึก และรู้รอบ ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ เพื่อการทำผลิตภัณฑ์ให้ดีที่สุด
2. ช่วยวิเคราะห์ปัญหาผิวของลูกค้า และหาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาผิวให้เจอ
3. บริการให้คำปรึกษาด้วยความจริงใจ ไม่ยัดเยียด

.

หลังประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นในสองปีที่ผ่านมา
ในปีนี้ คุณฝุ่งยังมีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ล้างหน้าและครีมกันแดด
เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของ AMT Skincare ได้ดูแลผิวในทุกแง่มุม
ตั้งแต่การล้างทำความสะอาด การบำรุงผิว ไปจนถึงการปกป้องผิวจากแสงแดด

พร้อมเตรียมเปิดตัว AMT Skincare Center ณ ใจกลางเมืองย่านสาทร
ศูนย์สกินแคร์แห่งแรกในประเทศไทยที่จะเปิดประสบการณ์ และมุมมองใหม่ ๆ ในการดูแลผิว ลูกค้าจะได้สัมผัสถึงความเป็น Skincare Chemist ตัวจริงผ่านโซน AMT Laboratory นอกจากนี้ ยังจะได้ทำความรู้จักกับผิวของตัวเองในแบบที่ไม่เคยรู้มาก่อนผ่านโซน AMT Skin Analysis พร้อมรับคำปรึกษาการบำรุงผิวจากทีมงานคุณภาพ AMT Your Skin Guardian ที่เตรียมพร้อมต้อนรับทุก ๆ ท่าน ภายในปีนี้

ระหว่างนี้ สำหรับใครที่อยากเข้าใจปัญหาผิวของตัวเองแบบที่อาจไม่เคยรู้มาก่อน สอบถามหรือปรึกษาปัญหาผิวที่ไลน์ https://bit.ly/LINEOfficial-AMTSkincare-2

พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่สนใจและแจ้งว่า รู้จัก “AMT Skincare” จาก MarketThink
รับทันทีส่วนลด 10% พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย

#AMTSkincare
#สกินแคร์
—--------------------------
อ้างอิง
-สัมภาษณ์คุณอมต ชัยเกรียงไกร ผู้ก่อตั้งแบรนด์ AMT Skincare