กรณีศึกษา FUJIFILM กับแผนการเป็นเบอร์หนึ่ง ในธุรกิจการพิมพ์เชิงพาณิชย์และบรรจุภัณฑ์ ทั้งในประเทศและระดับโลก

กรณีศึกษา FUJIFILM กับแผนการเป็นเบอร์หนึ่ง ในธุรกิจการพิมพ์เชิงพาณิชย์และบรรจุภัณฑ์ ทั้งในประเทศและระดับโลก

24 มี.ค. 2022
นับตั้งแต่ FUJIFILM ตัดสินใจควบรวมกิจการทั้งหมดของบริษัท Fuji Xerox ที่เป็นธุรกิจเครื่องพิมพ์อเนกประสงค์สำหรับสำนักงาน
การควบรวมกิจการครั้งนั้น ทำให้ FUJIFILM เกิดหน่วยงานใหม่ในบริษัทที่ชื่อว่า FUJIFILM Business Innovation เพื่อสร้างความแข็งแกร่งในการขยายธุรกิจให้หลากหลาย
ซึ่งผลลัพธ์ที่ตามมานั้น ถือว่าเหนือความคาดหมายเลยทีเดียว
ในปี 2564 ที่ผ่านมา บริษัท FUJIFILM ทำรายได้สูงสุดเท่าที่เคยมีมาในทุกกลุ่มธุรกิจ
โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจที่มีลูกค้าเป็นกลุ่มองค์กรหรือ B2B เติบโตขึ้น 86% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
โดยธุรกิจที่มีกลุ่มลูกค้าที่เป็น B2B ประกอบด้วย​ ธุรกิจการแพทย์และสุขภาพ เติบโตขึ้น 31%
ธุรกิจ Business Innovation and Material เติบโตขึ้น 30%
ธุรกิจการพิมพ์เชิงพาณิชย์และบรรจุภัณฑ์ เติบโตขึ้น 25%
ความน่าสนใจมันอยู่ที่ว่าธุรกิจ Business Innovation ที่ทำธุรกิจหลัก ๆ เกี่ยวกับนวัตกรรมการพิมพ์ให้แก่องค์กรต่าง ๆ ทั่วโลก และการพิมพ์เชิงพาณิชย์และบรรจุภัณฑ์
มีรายได้รวมกัน 55% จากรายได้ทั้งหมด
ก็เลยเป็นที่มาให้ FUJIFILM ต้องการเป็นผู้นำในธุรกิจการพิมพ์ เป็น No.1 Total Print Solutions ในตลาดโลก ด้วยแนวคิดที่มาจากแคมเปญ NEVER STOP Believing in Print
หรือการไม่หยุดยั้งสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ และบริการด้วยนวัตกรรมการพิมพ์ใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา
เหตุผลเพราะ FUJIFILM มองเห็นเทรนด์ตลาดโลกว่า แม้ความต้องการตลาดงานพิมพ์ในบางอุตสาหกรรมจะอยู่ในภาวะชะลอตัว เช่น นามบัตร, โบรชัวร์ และใบปลิว
แต่ในอีกมุมหนึ่งก็มีตลาดงานพิมพ์ที่เติบโตต่อเนื่อง นั่นก็คือ งานพิมพ์ในกลุ่มของบรรจุภัณฑ์ ที่กำลังเติบโตตามเทรนด์ E-Commerce
ความน่าสนใจมันอยู่ที่ว่า FUJIFILM มองว่า ธุรกิจการพิมพ์ในประเทศไทยถือเป็นตลาดใหญ่ในอาเซียน
เพราะนอกจากการใช้งานพิมพ์ภายในประเทศแล้วนั้น ก็ยังมีการส่งออกสินค้ามากมายที่ต้องพึ่งพาเครื่องพิมพ์ฉลากบนบรรจุภัณฑ์
โดยเฉพาะการใช้เทคนิคสีพิเศษ ที่หลายแบรนด์ชื่นชอบ เพราะจะทำให้สินค้าตัวเองโดดเด่นบนชั้นวางสินค้าตามร้านค้าต่าง ๆ
เรื่องนี้ย่อมส่งผลกับยอดขายโดยตรง ก็เลยทำให้หลายสินค้าให้ความสำคัญกับงานพิมพ์
แน่นอนว่าทาง FUJIFILM ก็จะมีเครื่องพิมพ์คุณภาพสูงเหล่านี้ ตอบสนองเจ้าของธุรกิจ
ขณะเดียวกันทาง FUJIFILM ก็ได้วางแผนธุรกิจในกลุ่มผลิตภัณฑ์การพิมพ์ในประเทศไทย ด้วยแนวทางที่ชัดเจน
โดยความเคลื่อนไหวล่าสุด คือ การสร้างโชว์รูม FUJIFILM Asia Pacific Demo Center ที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์สินสาคร จังหวัดสมุทรสาคร โดยจะใช้โชว์รูมแห่งนี้เพื่อแสดงนวัตกรรมการพิมพ์ที่ล้ำสมัย
เช่น การใช้เทคโนโลยีหัวพิมพ์ SAMBA ที่เป็นหัวพิมพ์อิงค์เจ็ท สามารถปล่อยหมึกได้ตามคำสั่ง
โดยหัวฉีดจะมีขนาดเล็กกว่าเส้นผม และมีความเร็วในการพิมพ์ 100 khz ทำให้ได้งานพิมพ์ที่คมชัดและคงทน
โดยเฉพาะรุ่น Jet Press 750S ที่ใช้หัวพิมพ์ SAMBA ที่เน้นงานพิมพ์ระดับคุณภาพสูง เหมาะสำหรับงานพิมพ์ประเภทบรรจุภัณฑ์สินค้าเชิงพาณิชย์ ไปจนถึงงานพิมพ์ระดับไฮเอนด์
เครื่องพิมพ์ Acuity B1 ที่สามารถพิมพ์ลงบนวัสดุที่มีความหนาได้ เช่น พวกกระป๋องบรรจุภัณฑ์โลหะ
เครื่องพิมพ์ Revoria Press PC1120 เป็นเครื่องพิมพ์รุ่นใหม่ที่สามารถพิมพ์สีพิเศษ เช่น สีเงิน สีทอง สีชมพู และสีขาว ได้อย่างคมชัดสมจริง แถมยังสามารถพิมพ์ลงบนวัตถุต่าง ๆ ได้ด้วย
อีกทั้งเครื่องพิมพ์หลายรุ่น ก็มีการใช้เทคโนโลยี AI มาช่วยปรับสีภาพให้นุ่มนวล สดใส และที่สำคัญเครื่องพิมพ์ทุกรุ่นยังถูกใส่เทคโนโลยีเพื่อสร้างความยั่งยืนให้แก่สิ่งแวดล้อม
ที่น่าสนใจก็คือ ตัวอย่างสินค้าหลาย ๆ รุ่นที่กล่าวมานั้น ทาง FUJIFILM ก็มีแผนที่จะวางขายในเมืองไทย
โดยทางทีมผู้บริหาร FUJIFILM มั่นใจว่านวัตกรรมการพิมพ์ที่อยู่ในมือตัวเองนั้น ไม่ใช่แค่มีเทคโนโลยีเหนือชั้นกว่าคู่แข่งในตลาด แต่ยังตอบโจทย์ด้านคุณภาพงานพิมพ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้าให้ความสำคัญมากที่สุด
จะเห็นว่า FUJIFILM กำลังจริงจังในธุรกิจการพิมพ์ทั้งในระดับโลกและในบ้านเรา
พร้อมกับคาดหวังว่าบริษัทจะก้าวขึ้นมาเป็น No.1 Total Printing Solutions ในอนาคตอันใกล้
เรื่องนี้หากย้อนกลับไปในอดีต FUJIFILM ก็เคยเป็นผู้นำในโลกธุรกิจฟิล์มถ่ายภาพ
แต่เมื่อโลกของธุรกิจเปลี่ยนไป ก็หันมาให้ความสำคัญกับธุรกิจเครื่องมือแพทย์และสุขภาพ จนถึงเป้าหมายล่าสุด ก็คือการเป็นเบอร์หนึ่งของโลกในอุตสาหกรรมการพิมพ์
ทีนี้พอรู้ว่าตัวเองมีเป้าหมายอะไร ก็ไม่หยุดยั้งสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์ ที่มีคุณภาพและนวัตกรรมใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา
ที่สอดคล้องกับแนวคิดของบริษัทตั้งแต่เริ่มต้นทำธุรกิจที่ว่า “Value from innovation” หรือเราต้องการสร้าง “นวัตกรรมอันทรงคุณค่า” อยู่ตลอดเวลา
ไม่แปลกที่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน เมื่อ FUJIFILM ต้องการเป็นเบอร์หนึ่งของตลาด ก็สามารถก้าวไปสู่จุดนั้นได้สำเร็จ เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดในโลกธุรกิจก็คือ “คุณภาพสินค้า”
เหมือนอย่างเวลานี้ที่ FUJIFILM มั่นใจว่าตัวเองจะก้าวเป็น No.1 Total Printing Solutions ด้วยแนวคิดการสร้าง “นวัตกรรมอันทรงคุณค่า” นั่นเอง
แหล่งที่มา: TNN Tech Report Weekly “เจาะกลยุทธ์ FUJIFILM ยืนหนึ่งได้ในยุค Digital Transformation” และ Fujifilm IR Financial Forecast (as of February 9, 2022)
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.