กรณีศึกษา บิทาซซ่า กำลังเชื่อมโลกบล็อกเชน ให้อยู่ในไลฟ์สไตล์ของทุกคน

กรณีศึกษา บิทาซซ่า กำลังเชื่อมโลกบล็อกเชน ให้อยู่ในไลฟ์สไตล์ของทุกคน

3 เม.ย. 2023
ที่ผ่านมา เวลาพูดถึงโลกเทคโนโลยีบล็อกเชน หลายคนอาจยังรู้สึกเป็นเรื่องไกลตัว
ทั้งที่จริงแล้ว ที่ผ่านมา เทคโนโลยีบล็อกเชนได้เข้ามาพลิกโฉมโลกการเงิน และกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราไปแล้ว
ยกตัวอย่างง่าย ๆ ใครจะคิดว่า เดี๋ยวนี้เราสามารถทำธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว
ไม่ต้องเสียเวลาไปธนาคาร หรือเสียค่าธรรมเนียม เพราะมีเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาช่วยปลดล็อก
หรือถ้าเป็นสายลงทุน เราก็มีสกุลเงินดิจิทัล เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่สนใจ
ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ วันนี้​บิทาซซ่า (Bitazza) แพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัล ที่หลายคนคุ้นชื่อ กำลังปฏิวัติวงการ สู่การเป็นสะพานเชื่อมต่อโลกเทคโนโลยีบล็อกเชนกับชีวิตประจำวันของผู้คน ให้ได้มากที่สุด
คำถามคือ แล้วถ้าบิทาซซ่า อยากจะพลิกโฉมให้โลกเทคโนโลยีบล็อกเชน ใกล้ตัวคนไทยกว่าที่คิดต้องทำอย่างไร ?
คำตอบคือ​ บิทาซซ่า ต้องเริ่มต้นจากการต่อยอดและพัฒนาตัวเอง ให้เป็นมากกว่าแพลตฟอร์ม​เทรดสินทรัพย์ดิจิทัล​ สามารถตอบโจทย์​การใช้ชีวิตของคนยุคนี้ได้แบบ ​360 องศา
ด้วยการก้าวสู่การเป็นซูเปอร์แอปแห่งโลกสินทรัพย์ดิจิทัล ที่สามารถให้บริการและมีผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ นอกเหนือจากการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล
เพื่อปลดล็อกตัวเองไปอีกขั้น บิทาซซ่า ตั้งต้นจากการมองว่า อะไร คือกุญแจในการปลดล็อกโลกสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชนกับทุกไลฟ์สไตล์ของผู้คน
สิ่งที่พบคือ อิสรภาพ, ความเป็นเจ้าของ, สิทธิและหน้าที่ และการเข้าถึง
บิทาซซ่า จึงนำทั้ง 4 โจทย์มาต่อยอดในการพัฒนาบริการและมีผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
เริ่มจากในมุมของการเป็นเจ้าของ..
ที่ผ่านมา บิทาซซ่า เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของเหรียญ BTZ ซึ่งเป็นดิจิทัลโทเคนของกลุ่มบริษัทบิทาซซ่า ที่มี Use Case มากมายที่สามารถใช้ได้จริง
นอกจากนี้ยังมีการมอบเหรียญ BTZ โดยที่ไม่ได้มีการระดมทุน และมีการบริหารจัดการจำนวนอุปทานเหรียญอย่างมีประสิทธิภาพ
เพื่อสร้างระบบนิเวศที่เน้นการมีส่วนร่วมของทุกคน โปร่งใส และประโยชน์ที่กระจายทั่วถึงทุกฝ่าย
ในแง่สิทธิและหน้าที่ บิทาซซ่า เริ่มต้นจากการเป็นนายหน้าซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลฝีมือคนไทยที่ได้รับใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทย และลูกค้ายังมั่นใจได้ว่า บิทาซซ่าจะไม่มีทางนำสินทรัพย์ของลูกค้าไปใช้ในจุดประสงค์ส่วนตัว หรือในทางที่ไม่เหมาะสมอย่างแน่นอน
มาถึงบทบาทในการเข้าถึงและอิสรภาพ
หนึ่งใน Pain Point ของภาคธุรกิจระดับ SME ที่ต้องการสร้างแอปพลิเคชันบน Web 2.0 คือ ต้องใช้ทรัพยากรและมีต้นทุนในการสร้างที่สูง
แต่เมื่อมีเทคโนโลยีบล็อกเชน ที่ช่วยเปิดโอกาสให้ผู้คนสามารถทำกิจกรรมอะไรหลาย ๆ อย่างโดยที่ไม่มีตัวกลางได้ รวมไปถึงการมาถึงของเทคโนโลยี Web 3.0 ที่กำลังจะเข้ามามีบทบาทในการแก้ปัญหาการผูกขาด
ทางบิทาซซ่าจึงเห็นถึงโอกาส ที่จะช่วยผู้คนและธุรกิจให้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี Web 3.0
เพื่อช่วยขยายศักยภาพของธุรกิจ​ ด้วยการมีแอปพลิเคชันของตัวเอง และมีระบบในการสะสมพอยต์
นี่จึงเป็นที่มาของการพัฒนาแอปพลิเคชันสะสมพอยท์ผสานเทคโนโลยีบล็อกเชน Freedom ซึ่งถูกสร้างบนเครือข่ายบล็อกเชนที่เป็นพันธมิตรร่วมธุรกิจอย่าง Fuse Network ที่มาร่วมจับมือกันสร้างระบบนิเวศของผลิตภัณฑ์ที่พร้อมใช้งานได้จริง ตอบโจทย์บริการที่ดีขึ้น เร็วขึ้น ค่าธรรมเนียมถูกลง
ซึ่งเกิดจากความเชื่อที่ว่า ทุกคนไม่จำเป็นต้องพัฒนาเครือข่ายของตัวเองขึ้นมา
แต่บิทาซซ่า จะเข้ามาเป็นตัวกลาง ช่วยพัฒนาเครือข่าย วางระบบ ให้เกิดการใช้งานจริง
แล้วจากแนวคิดดังกล่าว จะนำมาต่อยอดสู่การใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน​ได้อย่างไร?
เพื่อให้เห็นภาพ จะเห็นว่า บิทาซซ่า เริ่มจากการเป็นแพลตฟอร์มเทรดสินทรัพย์ดิจิทัล ที่ตอบโจทย์ในแง่ความเป็นอิสระในการใช้งาน
จากในอดีต หากต้องการลงทุน บางครั้งอาจต้องอดใจรอให้ถึงเวลาเปิดทำการ​ หรือต้องเสียเวลาไปสถานที่ที่ให้บริการนั้น ๆ
แต่บริการของบิทาซซ่า เอื้อให้ทุกคนเข้าถึงอิสรภาพทางการเงิน​ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถลงทุนแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลได้ และทำได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ทำให้มีเวลาเหลือไปทำอย่างอื่นได้อีกมาก
ในแง่ของการนำมาใช้จริงในชีวิตประจำวัน บิทาซซ่าได้ร่วมมือกับ ทีทูพี กับ วีซ่า พัฒนา Freedom Card ที่มาทลายกำแพงโลกของการเงินแบบเดิม ๆ ที่หากต้องการมีตัวช่วย เพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน
แทนที่จะต้องเตรียมเอกสารทางการเงิน เช่น สลิปเงินเดือน บัญชีเงินฝาก หรือไปเดินเรื่องที่ธนาคาร ซึ่งอาจจะมีขั้นตอนที่ไม่ได้สะดวก และต้องใช้เวลาในการดำเนินการ
นอกจากนี้ ยังพัฒนาบริการให้สามารถแลกเปลี่ยนคริปโตเป็นเงินบาทผ่านแอปบิทาซซ่าและเติมเงินบนบัตรได้ทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งาน ทั้งเติมเงินและรับสิทธิประโยชน์ได้จากแอปพลิเคชันมือถือของบิทาซซ่าได้เลย
ข้อดีคือ ไม่มีกระบวนการต่าง ๆ ที่ยุ่งยาก และยังเป็นการเปิดโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงิน ตอบโจทย์ผู้ใช้งานทุกคน
อีกหนึ่งก้าวที่น่าสนใจของบิทาซซ่า คือ นอกจากเชื่อมกับผู้ใช้งานทั่วไปแล้ว ยังนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่จะช่วยเสริมธุรกิจให้เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งผ่านแอปพลิเคชันสะสมพอยต์
ที่ผสานเทคโนโลยีบล็อกเชน Web 3.0 ครอบคลุมธุรกิจทุกประเภท พร้อมเชื่อมต่อคอมมิวนิตีและผู้คนทุกเพศ ทุกวัย
เพื่อช่วยต่อยอดธุรกิจให้เติบโตด้วยฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ สร้างคอมมิวนิตี
เก็บสะสมพอยต์ ระบบสมาชิก ไต่ระดับและแลกเปลี่ยนสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ใช้งานอย่างครบวงจร ทั้งยังช่วยลดต้นทุน
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจจะสงสัยว่า บิทาซซ่าทำทั้งหมดนี้ ไปเพื่ออะไร ?
ต้องบอกว่า สุดท้ายแล้ว เป้าหมายของบิทาซซ่า คือ ช่วยให้ทุกคนได้เจอกับอิสรภาพของตัวเอง
โดยอาศัยเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ไม่มีการจำกัดอายุ เพศ หรือเชื้อชาติ
แต่แน่นอนว่า การจะสร้างแรงกระเพื่อมไปสู่สังคมได้ ต้องเริ่มจากการสร้างวัฒนธรรมองค์กรของบิทาซซ่า ที่เน้นเรื่องอิสรภาพ ความเป็นเจ้าของ สิทธิและหน้าที่ และการเข้าถึง ให้แข็งแรง
เพื่อหล่อหลอมให้พนักงานทุกคน มุ่งมั่นที่จะรังสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการออกมาสู่มือผู้คนได้อย่างตอบโจทย์และใช้ได้จริง จนผู้ใช้งานสัมผัสได้ และนำไปเชื่อมกับชีวิตประจำวันและธุรกิจของตัวเอง
มาถึงตรงนี้ ใครที่รู้สึกมีแรงบันดาลใจ และอยากร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างการเปลี่ยนแปลงบนโลกของเทคโนโลยีบล็อกเชน ไปจนถึงไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน
ร่วมเป็นทีมบิทาซซ่า ได้แล้ววันนี้ที่ content.bitazza.com/careers-at-bitazza
*Freedom Card ดำเนินการโดยบริษัท ทีทูพี จำกัด
**สื่อนี้ดำเนินการโดยบริษัท บิทาซซ่า จำกัด และบริษัท ฟรีดอมเวิร์ส จำกัดในฐานะเป็นพาร์ทเนอร์ทางการตลาดของบริษัท ทีทูพี จำกัดร่วมกับบริษัท แอลทีแมน จำกัด และเรียบเรียงเผยแพร่โดย บริษัท แอลทีแมน จำกัด
คำเตือน: เหรียญ BTZ ถูกพัฒนาโดยกลุ่มของบริษัท บิทาซซ่า จำกัด จึงอาจมีผลประโยชน์ทับซ้อน คริปโทเคอร์เรนซี และโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทนในอนาคต
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.