กรณีศึกษา IKEA ออกแบบสินค้าอย่างไร จึงขายเฟอร์นิเจอร์รุ่นเดิม ได้นานถึง 40 ปี

กรณีศึกษา IKEA ออกแบบสินค้าอย่างไร จึงขายเฟอร์นิเจอร์รุ่นเดิม ได้นานถึง 40 ปี

12 ก.พ. 2023
เมื่อพูดถึงร้านขายเฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดร้านหนึ่งในยุคนี้  
หลาย ๆ คนคงนึกถึง IKEA แบรนด์จากประเทศสวีเดน กันอย่างแน่นอน
ด้วยการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ ที่มีความสวยงาม แต่แฝงไปด้วยความเรียบง่าย และประโยชน์ใช้สอยที่ดี ทำให้เฟอร์นิเจอร์ของ IKEA อาจกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์พื้นฐาน ที่หลาย ๆ บ้านต้องมีสักชิ้นหนึ่งอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ IKEA ยังดึงดูดคนที่ชื่นชอบในการ “ตกแต่งบ้าน” ให้เข้ามาเก็บเกี่ยวไอเดียใหม่ ๆ ในการตกแต่งบ้าน ด้วยเฟอร์นิเจอร์ และของใช้แบบใหม่ ๆ ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ามาวางจัดแสดงที่โชว์รูมของ IKEA กันอยู่ตลอด
ซึ่งจากข้อมูลบนเว็บไซต์ของ IKEA พบว่า ในแต่ละปี IKEA มีการออกสินค้าใหม่ ๆ รวมแล้วกว่า 2,000 ชิ้นต่อปี เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนไปของคนทั่วโลก
แต่รู้หรือไม่ว่า ไม่ใช่เฟอร์นิเจอร์ของ IKEA ทุกชิ้น ที่เราเห็นกันในโชว์รูม จะเป็น “ของใหม่” เสมอไป 
เพราะความจริงแล้ว เฟอร์นิเจอร์ของ IKEA บางชิ้น ก็เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่วางขายมาอย่างต่อเนื่องหลายสิบปี..
ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของเฟอร์นิเจอร์ IKEA ที่วางขายมาอย่างยาวนานหลายสิบปี คือ ตู้หนังสือของ IKEA ที่มีชื่อว่า “Billy Bookcase” ที่ได้รับการออกแบบไว้ตั้งแต่ปี 1979 หรือกว่า 44 ปี มาแล้ว..
โดยตู้หนังสือ Billy Bookcase นี้ ได้รับการออกแบบ โดยนักออกแบบของ IKEA ที่ชื่อ Gillis Lundgren ตาม “คำบ่น” ของ Billy Liljedahl ซึ่งเป็นผู้จัดการฝ่ายโฆษณาของ IKEA ในเวลานั้น ที่ต้องการตู้หนังสือธรรมดา ๆ สักหลังหนึ่ง ที่สามารถวางหนังสือได้เป็นอย่างดี โดยไม่จำเป็นต้องมีประโยชน์ใช้สอยอื่น ๆ เข้ามาเพิ่มความยุ่งยากแต่อย่างใด
เพราะในยุคนั้น Billy Liljedahl พบว่า ตู้หนังสือที่ IKEA วางขายอยู่ มีแต่ตู้หนังสือที่มีประโยชน์ใช้สอยอื่น ๆ เพิ่มเติม อย่างการเป็นตู้โชว์ของ มีบานตู้กระจกปิดอยู่ ซึ่งไม่ใช่ตู้หนังสือเรียบ ๆ แบบที่เขาต้องการ
ทำให้ Gillis Lundgren ออกแบบตู้หนังสือ Billy Bookcase นี้ออกมา ให้กลายเป็นตู้หนังสือที่เรียบง่าย แต่ใช้งานได้จริง ตามความต้องการของ Billy Liljedahl นั่นเอง
ด้วยจุดเด่นของตู้หนังสือ Billy Bookcase ที่มีความเรียบง่าย แต่ใช้งานได้จริงนี้เอง ทำให้ตู้หนังสือ Billy Bookcase ของ IKEA ได้รับความนิยมไปทั่วโลก นับตั้งแต่เริ่มวางจำหน่าย จนถึงปัจจุบัน
ซึ่งในปัจจุบัน ตู้หนังสือ Billy Bookcase นี้ ได้กลายเป็นหนึ่งในตู้หนังสือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ด้วยยอดขายสะสม 120 ล้านหลัง ตลอด 44 ปีที่ผ่านมา
หรือเทียบให้เห็นภาพง่าย ๆ ว่า ทุก ๆ 1 นาที IKEA จะขายตู้หนังสือ Billy Bookcase ได้ 5 หลัง..
นอกจากตู้หนังสือ Billy Bookcase แล้ว IKEA ยังมีเฟอร์นิเจอร์ที่วางขายมาอย่างยาวนาน เป็นเวลาหลายสิบปี อีกหลายชิ้น เช่น
- เก้าอี้อาร์มแชร์ POEM ซึ่งวางขายตั้งแต่ปี 1976 แต่ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น POÄNG (อ่านว่า พัวแอง)
- โคมไฟแขวนเพดาน FOTO โคมไฟสีสันสดใส ซึ่งวางขายเป็นครั้งแรกในปี 1978 โดยปัจจุบันมีให้เลือกเพียงตัวโคมอะลูมิเนียมสีเงินเท่านั้น
- ชั้นวางของ TROFAST (อ่านว่า ทรูฟัสท์) ซึ่งวางขายเป็นครั้งแรกในปี 1997
เมื่ออ่านมาจนถึงจุดนี้ หลาย ๆ คน อาจสงสัยว่า IKEA มีวิธีในการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงของใช้ต่าง ๆ ของตัวเองอย่างไร จึงทำให้วางขายได้อย่างยาวนาน จนแทบจะเรียกได้ว่า เฟอร์นิเจอร์ของ IKEA บางชิ้นกลายเป็นของที่ “อมตะ” ไปแล้วก็ว่าได้
สิ่งที่อยู่เบื้องหลังที่ทำให้เฟอร์นิเจอร์หลาย ๆ ชิ้นของ IKEA กลายเป็นอมตะ วางขายอยู่ภายในโชว์รูมของ IKEA ทั่วโลก ได้นานหลายสิบปี ก็เป็นเพราะ “หลักการ” ในการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ของ IKEA
โดย IKEA ยึดถือหลักการที่ใช้ในการออกแบบ ที่เรียกว่า “Democratic Design” หรือเรียกให้เข้าใจง่าย ๆ ว่า แนวคิดการออกแบบสำหรับทุกคน
ซึ่งแนวคิดการออกแบบ Democratic Design ของ IKEA นี้ ประกอบไปด้วยคุณลักษณะ 5 ข้อ ได้แก่
1. รูปทรง (Form) หรือการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ ให้มีความสวยงาม
2. ประโยชน์ใช้สอย (Function) มีประโยชน์ใช้สอยที่ดี ตอบโจทย์การใช้งานของคนทั่วไป
3. คุณภาพ (Quality) ออกแบบเฟอร์นิเจอร์ให้มีคุณภาพ เลือกใช้วัสดุคุณภาพดี มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
4. ความยั่งยืน (Sustainability) ออกแบบเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ในทุกขั้นตอน
5. ราคา (Price) มีราคาที่เข้าถึงง่าย คนทั่วไปสามารถซื้อเฟอร์นิเจอร์ของ IKEA มาใช้ได้
แน่นอนว่า เฟอร์นิเจอร์ของ IKEA ที่วางจำหน่ายมาอย่างยาวนานหลายสิบปี ที่ได้กล่าวไปข้างต้นนั้น ก็นับว่าเป็นตัวอย่างที่ดี ของแนวคิดการออกแบบ Democratic Design ที่ทำให้เฟอร์นิเจอร์ที่ได้รับการออกแบบเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว ยังสามารถจัดแสดงในโชว์รูมของ IKEA ได้จนถึงปัจจุบัน
ซึ่งตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด ก็คงจะหนีไม่พ้นตู้หนังสือ Billy Bookcase ที่วางจำหน่ายตั้งแต่ปี 1979 ที่ได้รับการออกแบบให้เป็นตู้หนังสือเรียบ ๆ แต่สวยงาม แถมยังตอบโจทย์ในด้านประโยชน์ใช้สอย คือการเป็นตู้หนังสือเพียงอย่างเดียว แต่ทำหน้าที่เป็นตู้หนังสือได้ดีที่สุด
เพราะหากเฟอร์นิเจอร์ ได้รับการออกแบบ ให้มีความสวยงาม มีความเรียบง่าย แต่มีประโยชน์ใช้สอยที่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคจำนวนมาก ได้อย่างแท้จริง 
เฟอร์นิเจอร์ชิ้นนั้น ก็สามารถกลายเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม แม้ระยะเวลาจะผ่านมานานหลายสิบปีแล้วก็ตาม
นอกจากนี้ IKEA ยังได้มีการปรับปรุงคุณภาพวัสดุ รวมถึงปรับแบบของเฟอร์นิเจอร์เล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่ตลอดเวลา เพื่อเพิ่มความคงทนให้กับเฟอร์นิเจอร์ ตามคุณภาพของวัสดุ ที่มีการพัฒนาตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป
ซึ่งนอกจากการปรับปรุงคุณภาพวัสดุ จะเป็นการเพิ่มความคงทนให้กับเฟอร์นิเจอร์แล้ว 
IKEA ยังสามารถใช้การปรับปรุงคุณภาพวัสดุ และกระบวนการผลิตนี้ เป็นการ “ลดต้นทุน” ในการผลิตได้อีกด้วย
โดย IKEA ให้ข้อมูลว่า นับตั้งแต่ปี 1979 ที่ตู้หนังสือ Billy Bookcase เริ่มวางขายเป็นปีแรก IKEA มีการปรับลดราคาตู้หนังสือนี้ลงหลายครั้ง จาก 98 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,200 บาท) เหลือเพียงไม่ถึง 70 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,300 บาท) ในปัจจุบัน
ซึ่งนั่นก็ทำให้ตู้หนังสือ Billy Bookcase ของ IKEA กลายเป็นสินค้าที่จับต้องได้มากขึ้นไปอีก
นอกจากนี้ IKEA ยังมีการแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ ออกมาจากตู้หนังสือ Billy Bookcase รุ่นแรก ให้กลายเป็นตู้หนังสือในหลากหลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย
เช่น ตู้หนังสือ Billy Bookcase ที่มีฝาตู้เป็นกระจก มีช่องเก็บของด้านล่าง รวมถึงตู้หนังสือ Billy Bookcase ที่ออกแบบให้สามารถวางที่มุมห้องได้อย่างสวยงาม
เช่นเดียวกันกับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่น ๆ ของ IKEA ที่วางขายมาเป็นระยะเวลายาวนาน ไม่ว่าจะเป็น เก้าอี้อาร์มแชร์ POEM, โคมไฟแขวนเพดาน FOTO และชั้นวางของ TROFAST หากออกแบบได้ดี มีทั้งความสวยงาม เรียบง่าย เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่น ๆ ภายในบ้าน แม้จะซื้อมาในช่วงเวลาที่ต่างกัน
ก็จะทำให้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นนั้น กลายเป็นของ “อมตะ” และวางขายอยู่ในโชว์รูมได้อย่างยาวนาน แม้จะต้องผ่านการปรับปรุงแบบ หรือวัสดุเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่หลายครั้งก็ตาม..
อ้างอิง:
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.