รู้จัก Zihaiguo แบรนด์หม้อไฟสำเร็จรูป ที่ขายดีจนขาดตลาด​

รู้จัก Zihaiguo แบรนด์หม้อไฟสำเร็จรูป ที่ขายดีจนขาดตลาด​

23 มี.ค. 2021
สมัยก่อน แค่มีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปติดตัว ก็อุ่นใจแล้วว่ามื้อหน้าไม่ต้องกลัวอด​
แถมยังสะดวกสบาย แค่ฉีกซอง เติมน้ำร้อน แต่ถ้าขี้เกียจล้างชาม ก็อาจจะต้องยอมจ่ายเพิ่ม ซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบถ้วยที่มีส้อมแถมในถ้วย
แต่เดี๋ยวนี้ นวัตกรรมไปไกลกว่านั้น เพราะเราสามารถอิ่มอร่อยกับเมนูหม้อไฟสำเร็จรูปได้
โดยไม่ต้องง้อไฟฟ้าหรือมองหาน้ำร้อน
แค่เปิดซองวัตถุดิบ เทน้ำธรรมดา (อุณหภูมิห้อง) ลงไปที่ถุงทำความร้อน เพื่อช่วยให้น้ำเดือดได้ โดยไม่ต้องพึ่งกาต้มน้ำ ก็พร้อมรับประทาน
ด้วยคอนเซปต์ที่ไม่ซับซ้อน แถมยังตอบโจทย์ตลาดคนขี้เกียจ เน้นความสะดวกสบายได้เป็นอย่างดี
ทำให้ไอเดีย หม้อไฟสำเร็จรูป กลายเป็นสินค้ายอดนิยมของจีนมาตั้งแต่ปี 2016
เรียกได้ว่า ใครที่เป็นแฟนซีรีส์จีน คงจะเห็นตัวละครในเรื่อง ซื้อหม้อไฟสำเร็จรูปมาทำกินเองที่บ้านบ่อย ๆ อย่างแน่นอน
หนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง คือ Zihaiguo อ่านว่า จื่อไห่กัว
ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแบรนด์ที่วัยรุ่นจีนนิยมอย่างมาก โดยมีจุดเด่น คือ​ การใช้โลโกหมาป่าหน้าตาทะเล้น ปรากฏตัวอยู่บนบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบให้สีสันสดใส​ สร้างภาพจำให้ลูกค้าได้เป็นอย่างดี​
แล้ว Zihaiguo น่าสนใจอย่างไร ?
Zihaiguo ก่อตั้งโดยคุณ Shi Fu Peng เมื่อปี 2018
ซึ่งตั้งใจพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ Pain Point ของคนจีนที่ครองตัวเป็นโสดมากขึ้น และตอบกระแสสังคมขี้เกียจ ที่ผู้คนยอมจ่ายเงินเพื่อแลกกับความสะดวกสบาย
จึงพัฒนาเมนูหม้อไฟ ข้าวอบหม้อดิน ก๋วยเตี๋ยวไปจนถึงอาหารกลางวัน ที่พลิกโฉมเมนูกึ่งสำเร็จรูปทั่วไป
ด้วยการนำนวัตกรรมซองความร้อน ที่สามารถทำปฏิกิริยาเคมี เพียงเติมน้ำก็สามารถทำให้เกิดความร้อนได้เอง
ทำให้ถ้วยที่บรรจุอาหารด้านบน ร้อนจนเดือดได้ โดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า
เหมาะกับคนโสดในเมือง ที่ไม่ต้องการเข้าครัว หรือ ไม่อยากสั่งอาหารดิลิเวอรี ​
แต่ที่มาบูมสุด ๆ ถึงขั้นกลายเป็นสินค้าที่ขาดตลาด คือ ช่วงที่เกิดวิกฤติโรคระบาด
นอกจากหน้ากากอนามัยแล้ว หม้อไฟสำเร็จรูปแบบอุ่นร้อนเองได้ กลายเป็นสินค้าที่คนจีนต้องการอย่างมาก
จนหาซื้อไม่ได้ชั่วคราว ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือที่ซูเปอร์มาร์เกต
ข้อมูลจาก Taobao ผู้ค้าปลีกออนไลน์รายใหญ่ที่สุดของจีน ระบุว่า ในช่วงเดือน ม.ค - ก.พ. ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่โควิด 19 ระบาดหนักในจีน จนต้องมีการล็อกดาวน์ ร้านอาหารถูกสั่งปิด
ทำให้ยอดขายอาหารสำเร็จรูปแบบอุ่นร้อนเองได้ ขึ้นแท่นเป็นสินค้าขายดีอันดับ 2​
โดยเฉพาะข้าวกล่องสำเร็จรูปแบบอุ่นร้อนเองได้ มียอดขายเพิ่มขึ้น 257% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ขณะที่​ Zihaiguo มียอดสั่งซื้อผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปแบบอุ่นเองได้ เพิ่มขึ้นถึง 200-300%
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการคาดการณ์ว่า มูลค่าตลาดของผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปแบบอุ่นร้อนในจีนน่าจะมีมูลค่าไม่เกิน 95,000 ล้านบาท
เพราะด้วยข้อจำกัดของรสชาติ ซึ่งปัจจุบันหม้อไฟสำเร็จรูปร้อนเอง ยังเน้นชูรสชาติจัด อย่าง รสหม่าล่า รสเผ็ดเท่านั้น
ทำให้ยังจำเป็นต้องหากลยุทธ์ใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาสร้างสีสันให้ตลาด
เพิ่มความหลากหลายให้กับผลิตภัณฑ์ ทั้งรสชาติ ขนาด รวมถึงความปลอดภัยของบรรจุภัณฑ์​​
แต่ด้วยไอเดียธุรกิจที่คิดมาอย่างดี พัฒนาสินค้าจนโดนใจตลาดอย่างจังนี้เอง ทำให้เมื่อปลายปีที่แล้ว
Zihaiguo สามารถระดมทุนในซีรีส์ C ได้มากกว่า 1,500 ล้านบาท
ทำให้บริษัทมีมูลค่าถึง 15,000 ล้านบาท มีเงินทุนสำหรับนำไปศึกษาและพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ต่อไป
ที่ผ่านมา Zihaiguo เน้นขายทางอีคอมเมิร์ซ อย่าง Tmall, JD.com, Amazon และ eBay เป็นช่องทางหลัก
นอกจากนี้ยังเลือกสร้างกระแสความนิยม ด้วยการใช้อินฟลูเอนเซอร์ และ Tie-in ในซีรีส์
ซึ่งล่าสุด เพิ่งเป็นกระแสบนโลกออนไลน์ เพราะดันไป Tie-in เมนูบิบิมบับในซีรีส์เกาหลีใต้เรื่อง Vincenzo ที่มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับทนายมาเฟีย
จนทำให้ผู้ชมไม่พอใจ ว่าใช้แบรนด์จีนมาโฆษณาเมนูบิบิมบับ ซึ่งชาวเกาหลีมองว่าเป็นเมนูประจำชาติของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม จากความนิยมของหม้อไฟสำเร็จรูปจีน ย้อนกลับมาสำรวจกระแสความนิยมในบ้านเรา
อาจจะยังไม่ได้ฮอตฮิตเท่าที่จีน
แต่ถึงอย่างนั้น ก็เริ่มมีร้านอาหารในบ้านเราที่ปรับตัวมาจับเทรนด์นี้ ยกตัวอย่าง
-YOU&I ร้านชาบูพรีเมียมชื่อดัง เปิดตัวหม้อไฟไฮเทค ให้สาวกชาบูฟินแบบไม่ต้องง้อไฟหรือใช้หม้อ แค่เปิดฝา ใส่วัตถุดิบ แล้วเทน้ำ
-โออิชิ เปิดตัวนาเบะและสุกี้ยากี้ น้ำซุปน้ำดำ ในเวอร์ชันหม้อไฟญี่ปุ่นอุ่นร้อนเองได้
เพื่อให้ลูกค้าได้กินเมนูหม้อไฟแบบเดือด ๆ เหมือนกินที่ร้านโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้าหรือแม้แต่ไมโครเวฟ
-หงเปา ร้านอาหารจีนสไตล์กวางตุ้ง นำเสนอมิติใหม่ของการกินติ่มซำ ด้วย "Hong Bao Heat Box"
นวัตกรรมที่จะทำให้ทุกคนอิ่มอร่อยกับติ่มซำร้อน ๆ เหมือนมากินที่ร้าน
ก็เรียกว่า เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ ในการลุกขึ้นมาลองตลาดใหม่ก่อนคนอื่น
เพื่อหวังจับเทรนด์ผู้บริโภคที่อาจจะอยากเปิดประสบการณ์ที่ไม่จำเจ
ในวันที่ไม่อยากนั่งรอออร์เดอร์อาหารดิลิเวอรี
หรือมองว่า​อาหารหรือขนม ที่ทำสุกมาครึ่งนึงแล้วให้ไปทำต่อเอง
ยังมีความยุ่งยาก เพราะต้องเก็บล้าง ทำความสะอาดจานชาม
แต่สิ่งสำคัญที่สุดในธุรกิจอาหาร ไม่ใช่แค่การพัฒนาผลิตภัณฑ์เจ๋ง ๆ มาแก้ Pain Point ของลูกค้า
แต่รสชาติ คือ หัวใจสำคัญ ต่อให้นวัตกรรมจะก้าวล้ำแค่ไหน
ถ้ารสชาติไม่ถูกปาก ก็ยากที่ลูกค้าจะกลับมาซื้อซ้ำอยู่ดี..
© 2024 Marketthink. All rights reserved. Privacy Policy.