รู้จัก ซัคเซสมอร์ ผู้ประกอบธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภคของคนไทยที่เติบโตทั้งในและต่างประเทศ

เมื่อพูดถึงสินค้าอุปโภคบริโภค คนไทยส่วนใหญ่มักจะนึกถึงสินค้าของบริษัทต่างประเทศ

แต่จริง ๆ แล้ว ยังมีบริษัทที่ก่อตั้งโดยคนไทย และมียอดขายเติบโตต่อเนื่องนานถึง 10 ปี
อีกทั้งยังมีโรงงานผลิตสินค้าที่ทันสมัย และมีกำลังการผลิตสูงกว่า 150,000 ชิ้นต่อเดือน

บริษัทที่ว่าคือ ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน)
ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากไอเดียของคุณหมอสิทธวีร์ เกียรติชวนันต์ และ คุณนพกฤษฏิ์ นิธิเลิศวิจิตร ที่ต้องการสร้างแบรนด์ไทย ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า โดยเน้นไปยังช่องทางถึงระบบตัวแทน MLM หรือ ระบบขายตรง นั่นเอง

ที่น่าสนใจ ในเวลาแค่ 9 ปีที่ทำธุรกิจ นอกจากจะเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ได้แล้วนั้น บริษัทสัญชาติไทยรายนี้ ยังสามารถขยายธุรกิจไปได้ไกลถึง 6 ประเทศ และมีศูนย์กระจายสินค้าในประเทศไทย 23 แห่ง พร้อมกับผลประกอบการที่เติบโตต่อเนื่อง

ปี 2562 มีรายได้ 1,100 ล้านบาท กำไร 59 ล้านบาท
ปี 2563 มีรายได้ 1,029 ล้านบาท กำไร 64 ล้านบาท
ปี 2564 มีรายได้ 1,283 ล้านบาท กำไร 217 ล้านบาท

แม้เหตุผลหลักของการเติบโต จะมาจากเทรนด์รักสุขภาพที่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งตรงกับไลน์สินค้าของบริษัทที่มีอยู่ในมือ แต่หากสินค้าไม่มีคุณภาพ และไม่ตอบโจทย์ผู้บริโภค ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ

ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ผู้บริหารบริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน) รู้ดีตั้งแต่เริ่มต้นทำธุรกิจ ทำให้มีแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ ร่วมกันคิดค้นพัฒนาและดูแลกระบวนการผลิตในแต่ละกลุ่มสินค้าอย่างใกล้ชิด

และอย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้น บริษัทแห่งนี้มีโรงงานผลิตสินค้าเป็นของตัวเอง โดยผ่านบริษัทลูกคือ “บริษัท เอสซีเอ็ม อินโนเวทีฟ จำกัด” หรือ SMI ที่ดูแลกระบวนการผลิตทุกขั้นตอน

ตรงนี้เองที่ทำให้บริษัทได้เปรียบในด้านการแข่งขัน โดยเฉพาะเรื่องต้นทุนการผลิต
ทำให้สามารถตั้งราคาขายในระดับที่ผู้บริโภคเข้าถึงง่าย อีกทั้งยังสามารถคัดเลือกวัตถุดิบคุณภาพ จนถึงควบคุมกระบวนการผลิตทุกขั้นตอน

โดยสินค้าของบริษัทแห่งนี้จะมีอยู่ 6 แบรนด์หลัก ๆ

1. กลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแบรนด์ นูทรินอล (Nutrinal) โดดเด่นด้วยการคัดเลือกวัตถุดิบชั้นดีจากทั่วโลก มาผลิตเป็นอาหารเสริม อาทิ S.O.D MORE ที่เป็น Flagship สร้างยอดขายเติบโตต่อเนื่อง โดยมีจุดขายคือการเลือกคุณค่าของไฟโตนิวเทรียนท์ จากผักและผลไม้ 125 ชนิดทั่วโลก จากนั้นก็ผ่านกระบวนการผลิตนานถึง 180 วัน

2. กลุ่มผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าแบรนด์ เอส โมเน่ (S MONE) ที่จะมีส่วนผสมหลัก คือ สารสกัดจากธรรมชาติ นอกจากจะไม่เป็นอันตรายแล้วนั้น ยังตอบโจทย์ทุกสภาพผิว โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มลดริ้วรอย ให้ใบหน้าอ่อนกว่าวัย อย่าง S MONE HEMP SEED OIL ที่เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติ ตอบโจทย์สาว ๆ ที่ชอบดูแลตัวเอง

3. กลุ่มผลิตภัณฑ์ใช้ในชีวิตประจำวันแบรนด์ บอดี้เชียร์ (Body Cheer) กลยุทธ์ของแบรนด์นี้จะมีสินค้าหลากหลาย เช่น แชมพู, ครีมนวด, ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น และโลชั่นบำรุงผิว พร้อมกับตั้งราคาขายที่เข้าถึงได้ง่าย

4. กลุ่มผลิตภัณฑ์เพิ่มผลผลิตทางการเกษตรแบรนด์ โกวอิ้งมอร์ (Growing More) เป็นธาตุรองเสริมสำหรับพืชทุกชนิด นอกจากพืชจะต้องการปุ๋ย NPK แล้ว พืชยังต้องการแร่ธาตุสำคัญต่างๆ ที่ช่วยทำให้พืชเติบโตแข็งแรงมีผลผลิตที่เพิ่มขึ้น

5. กลุ่มผลิตภัณฑ์นวัตกรรมทันสมัยแบรนด์ สมาร์ท ครีเอชั่น (Smart Creation) กลุ่มสินค้าที่ทันสมัยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนในยุคนี้ ด้วยผลิตภัณฑ์ Alkamag ที่เป็นมากกว่าเครื่องกรองน้ำที่สามารถ ผลิตทั้งน้ำแร่ และน้ำด่างในเครื่องเดียว

6. กลุ่มสินค้าผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแบรนด์ นิทลี่โฮม (Neatly Home) ผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ในครัวเรือน ไม่ว่าจะเป็น ผงซักฟอกสูตรเข้มข้น น้ำยาซักผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรเข้มข้น และน้ำยาล้างจาน มีส่วนผสมของสารทำความสะอาดที่มาจากพืชธรรมชาติ จึงสามารถย่อยสลายได้ในธรรมชาติเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

หากสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าวิธีการทำธุรกิจของบริษัทจะอยู่ในแนวคิดที่ยั่งยืน โดยเน้นสินค้าที่มีความหลากหลาย สินค้าคุณภาพสูงในราคาที่จับต้องได้เพื่อให้ผู้บริโภคกลับมาซื้อซ้ำได้มากขึ้น

ขณะเดียวกันบริษัทก็เชื่อว่าการจะเติบโตในธุรกิจนี้ต้องมี กลุ่มพันธมิตรในตลาดต่างประเทศ รวมถึงตัวแทนในการขายตรง จะต้องมีความรู้ความสามารถที่ช้วยกันสร้างการเติบโตไปพร้อม ๆ กัน
บริษัทจึงมีบุคลากรที่เชี่ยวชาญในธุรกิจรอบด้านมาให้ความรู้ คำแนะนำเชิงลึกในการทำธุรกิจขายตรง จนถึงการจัดคอร์สเสริมทักษะต่าง ๆ ให้แก่ตัวแทนในการขาย

ทั้งหมดนี้เองที่ทำให้ ซัคเซสมอร์ เติบโตได้อย่างรวดเร็ว และล่าสุดยังมีการจัดแคมเปญก้าวสู่ปีที่ 10 ด้วยการแจกของรางวัลให้แก่ลูกค้ามากมาย มูลค่ากว่า 4 ล้านบาท
โดยมีรางวัลใหญ่คือ รถยนต์ BMW รุ่น 220i Gran Coupe M Sport 1 คัน

สำหรับนักธุรกิจ ตัวแทนขายของบริษัท และลูกค้าทั่วไปเมื่อซื้อสินค้าครบทุก ๆ 1,500 บาท จะได้รับ e-Coupon ลุ้นโชค 1 ใบ
โดยแคมเปญเริ่มตั้งแต่ 1 ก.พ. - 31 ธ.ค. 2565
ถ้าใครอยากดูข้อมูลเพิ่มเติม สามารถดูได้ที่ www.successmore.com, เฟซบุ๊ก Successmore Thailand หรือ LINE @successmore

การเติบโตของ ซัคเซสมอร์ ถือเป็น Case Study ที่น่าสนใจเลยทีเดียว
เพราะใครจะคิดว่าจะมีบริษัทคนไทย ในกลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใช้เวลาไม่นาน ก็เติบโตรวดเร็ว จนขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ

References
-https://investor.successmore.com/th
-ข้อมูลเอกสารบริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด (มหาชน)