ทำไม ทำคลิปปักตะกร้า TikTok แล้วโดนปิดกั้นการมองเห็น ? สรุปวิธีแก้ แบบไม่ต้องซื้อโฆษณา

“ทำคลิปปักตะกร้าบน TikTok แล้วได้ยอดวิวน้อยกว่าที่ควรจะเป็น” นี่คือหนึ่งใน Pain Point ที่ครีเอเตอร์ และพ่อค้าแม่ค้าหลาย ๆ คนบ่นกันเยอะมาก ๆ

เมื่อเป็นแบบนี้ หลายคนจึงแก้ปัญหาด้วยการยอม “ซื้อโฆษณา” เพื่อเปิดการมองเห็น

เรื่องนี้ ถ้าตัดเรื่อง “คุณภาพของคอนเทนต์” ออกไป เพราะถ้าเรานำเสนอคอนเทนต์ ไม่น่าสนใจจริง ๆ ก็มีโอกาสจะมียอดวิวน้อยเป็นธรรมดา

แต่รู้หรือไม่ ? ถ้าไปกางกฎของ TikTok ออกมาดู
จะพบว่า แม้ว่าเราจะทำคอนเทนต์ได้น่าสนใจ น่าดึงดูดมากแค่ไหน แต่โพสต์ที่ปักตะกร้า ก็มีสิทธิ์ที่จะ “ถูกจำกัดการมองเห็น” ได้จริง ๆ

คำถามที่สำคัญก็คือ แล้วถ้าเราอยากปักตะกร้า โดยที่ไม่ถูกปิดกั้นการมองเห็น ต้องทำอย่างไร ? MarketThink สรุปมาให้แล้วในโพสต์นี้

- การปักตะกร้า คือการทำ Affiliate รูปแบบหนึ่ง ที่เราทำคอนเทนต์ลงบน TikTok แล้วทำปักตะกร้าสินค้าไว้กับคอนเทนต์

ซึ่งถ้ามีคนกดซื้อสินค้าผ่านคอนเทนต์ของเรา เราก็จะได้ส่วนแบ่งเป็นค่านายหน้าจากยอดขายที่ทำได้ โดยอัตราค่านายหน้าที่ได้ ก็ขึ้นอยู่กับที่ร้านค้าแต่ละร้านกำหนด

ด้วยวิธีการง่าย ๆ จึงทำให้หลายคนหันมาทำคอนเทนต์ปักตะกร้ากันมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ช่วงหลังมานี้ หลายคนเจอปัญหาทำคอนเทนต์ปักตะกร้า แล้วมักจะได้ยอดวิวน้อย จึงแก้ปัญหาด้วยการซื้อโฆษณา เพื่อเปิดการมองเห็น

- ทำไมทำคอนเทนต์ปักตะกร้า ถึงมักได้ยอดวิวน้อย ?

สาเหตุที่ทำให้คอนเทนต์ปักตะกร้าบน TikTok ถูกจำกัดการมองเห็น มีส่วนมาจากตัวเลขที่ชื่อว่า “PQP” หรือย่อมาจาก Promotion Quality Points

ตัวเลขนี้เป็นตัวเลขที่ใช้บอกว่า ครีเอเตอร์ที่มีสิทธิ์ปักตะกร้า มีการโปรโมตสินค้าที่ดี มีคุณภาพสูง และทำให้ผู้ชมตัดสินใจซื้อได้มากแค่ไหน โดยจะให้คะแนนเป็นตัวเลข 0-5 คะแนน

ถ้าครีเอเตอร์
มีคะแนน PQP สูงกว่า 4 จะมีโอกาส “เพิ่มการมองเห็น” ให้วิดีโอ
มีคะแนน PQP น้อยกว่า 2 คะแนน จะมีโอกาส “ถูกจำกัดการมองเห็น” ของวิดีโอ

ซึ่งเราสามารถดูตัวเลข PQP ของช่องตัวเองได้ที่หน้า “Creator Center”

- ทีนี้ถ้าถามว่าแล้ว PQP คำนวณจากอะไร ?

TikTok Shop ระบุว่า ตัวเลข PQP ของเราจะเพิ่มขึ้นหรือลดลง จะคำนวณได้จาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่

1. ค่าเฉลี่ยคะแนนของร้านค้า ที่เราเอาสินค้ามาปักตะกร้า
2. อัตรารีวิวเชิงบวกของสินค้า ที่เราเอาสินค้ามาปักตะกร้า
3. จำนวนคำสั่งซื้อจาก วิดีโอสั้นหรือ LIVE ที่เราเอาสินค้ามาปักตะกร้า

จากปัจจัยข้อ 1 และ 2 นั้น จะเห็นได้ว่า ต่อให้เราทำคอนเทนต์ดีแล้ว แต่ถ้าเราเลือกสินค้ามาปักตะกร้าไม่ดี ก็มีสิทธิ์ที่คะแนน PQP ของเราจะน้อยลง จนถูกแพลตฟอร์มจำกัดการเข้าถึงได้นั่นเอง

ดังนั้น ถ้ามั่นใจว่าวิธีทำคลิปของเรามาถูกทางแล้ว แต่วิดีโอยังมียอดรับชมน้อยกว่าปกติ

วิธีแก้ก็อาจจะอยู่ที่ “การเลือกสินค้า” ให้ตรงตามเกณฑ์

นั่นก็คือการเลือกสินค้าจากร้านค้าที่มีคะแนนสูง และเลือกสินค้าที่มีอัตรารีวิวในเชิงบวกสูง มาปักตะกร้า เพื่อทำให้คะแนน PQP ของเราเยอะขึ้นนั่นเอง

- คำถามต่อมาคือ เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ร้านค้าและสินค้าไหนที่ตรงตามเกณฑ์ และควรเอามาปักตะกร้า ?

1. วิธีดูว่า สินค้าไหน มีอัตรารีวิวในเชิงบวกสูง

ให้เราเข้าไปที่หน้า Marketplace จากนั้นเราจะเห็นหน้าต่างที่มี “การ์ดสินค้า” ที่จะบอกรายละเอียดของสินค้า เช่น ชื่อสินค้า, ราคา, ยอดขาย

รวมไปถึง “คะแนนรีวิว” เป็นรูปดาว จะอยู่ในช่วง 0-5 คะแนน
ยิ่งร้านมีคะแนนตรงนี้เยอะ จะยิ่งหมายความว่า มีลูกค้าซื้อสินค้าไปแล้ว กลับมารีวิวในเชิงบวกเยอะ

ดังนั้นเราควรหาสินค้าที่ได้คะแนนตรงนี้ “เยอะที่สุด” มาปักตะกร้า

2. วิธีดูว่า ร้านค้าไหนมีคะแนนร้านค้าสูง

เมื่อเราได้สินค้าที่มีอัตรารีวิวสูงแล้ว ให้เรากดเข้าไปดูที่รายละเอียดของสินค้าแบบเต็ม ๆ โดยเราจะเห็นชื่อร้านค้าพร้อมสัญลักษณ์ดาวสีเขียวที่มีตัวเลขกำกับอยู่

ตัวเลขตรงนี้ก็คือ “คะแนนร้านค้า” จะอยู่ในช่วง 0-5 คะแน
ยิ่งร้านค้ามีคะแนนตรงนี้เยอะ หมายความว่า เป็นร้านค้าที่ดำเนินการดี มีการส่งของทันตามกรอบเวลาที่กำหนด หรือมีอัตราลูกค้าคืนสินค้าน้อย

โดยร้านค้าที่อยู่ในเกณฑ์สามารถเอามาปักตะกร้าได้ ควรจะต้องมีคะแนนร้านค้าตั้งแต่ 3.9 คะแนนขึ้นไป

- ที่น่าสนใจคือ ตรงนี้หลายคนอาจจะพลาด ด้วยการเอาสินค้าที่มีตัวเลข “คะแนนรีวิว” สูง ๆ มาปักตะกร้าจนมองข้าม “คะแนนของร้านค้า” ที่อาจจะต่ำ

เพราะสินค้าที่มีอัตรารีวิวเชิงบวกสูง อาจจะอยู่ในร้านค้าที่มี “คะแนนร้านค้าต่ำ” ก็ได้

ส่งผลให้เมื่อระบบเอาตัวเลขทั้งหมดมาคำนวณเป็นคะแนน PQP ให้เรา เราจึงได้คะแนนน้อยกว่าที่ควรจะเป็น จนอาจทำให้ถูกจำกัดการมองเห็นนั่นเอง

มาถึงตรงนี้ สรุปง่าย ๆ คือ สำหรับคนที่หารายได้เสริมจากการปักตะกร้า ไม่ควรใส่ใจเรื่องคุณภาพของคอนเทนต์อย่างเดียว แต่ต้องใส่ใจในการเลือกสินค้าที่ดี จากร้านค้าที่ดี มาโปรโมตด้วย

เพราะทั้งหมดจะส่งผลต่อคะแนน PQP ของเรา

ที่ยิ่งคะแนน PQP ของเราเยอะ จะยิ่งมีโอกาสได้รับการ “เปิดการมองเห็น”
แต่ถ้าคะแนน PQP ของเราน้อย เราก็อาจถูก “จำกัดการมองเห็น” ได้

สุดท้ายนี้ ถ้าใครเข้าไปที่หน้า Creator Center แล้วไม่เห็นคะแนน PQP ของตัวเอง ก็ไม่ต้องตกใจ

เพราะตัวเลขนี้ จะแสดงให้เห็นเฉพาะครีเอเตอร์ ที่มีคำสั่งซื้อจากสินค้าในหนึ่งหมวด มากกว่า 30 คำสั่งซื้อในรอบ 90 วันเท่านั้น